เมื่อเดือนที่แล้ว ฉันได้รับกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Reolink Go Plus 4G พร้อมการเชื่อมต่อ 4G LTE รองรับการตรวจจับยานพาหนะ/คน และใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ ในส่วนแรกของการตรวจสอบ ฉันได้แกะกล่อง เพิ่มกล้องลงในแอป Reolink Android และยืนยันว่าใช้งานได้กับซิมการ์ด DTAC ของฉัน
ตอนนี้ฉันได้ติดตั้งกล้องแล้วและมีเวลาที่จะทดสอบคุณสมบัติเพิ่มเติม และบันทึกประสบการณ์ของฉันกับของฉันกับกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ
ติดตั้งกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Reolink Go Plus 4G และแผงโซลาร์เซลล์
ฉันต้องการใช้กล้องใกล้กับประตู แต่มันอยู่นอกระยะสำหรับ WiFi ฉันจึงพบไม้เนื้อแข็งชิ้นหนึ่งที่ฉันติดกล้องและแผงโซลาร์เซลล์และติดเข้ากับผนัง
การติดตั้งปัจจุบันของฉันมีไว้เพื่อการทดสอบเท่านั้น ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ปลอดภัยที่สุด เนื่องจากกล้องมองเห็นได้ชัดเจนและวางไว้เหนือพื้นเพียง 2 เมตรเท่านั้น ดังนั้น ขโมยสามารถถอดกล้องและถอดแบตเตอรี่ออกได้อย่างง่ายดายก่อนจะเข้ามาในบ้านของฉัน และกล้องก็จะไร้ประโยชน์
ทุกอย่างทนฝนและแดดได้ แผงโซลาร์และกล้องน่าจะทนหน้าฝนที่จะมาถึงในอีก 5-6 เดือนข้างหน้านี้ ต่อไปฉันจัดการหาซิมเน็ต TrueMove ที่มีอายุการใช้งาน 6 เดือน และจำกัดความเร็ว 4 Mbps / 20GB เพื่อใช้กับมัน ปรากฎว่าซิมการ์ด TrueMove นี้เหมาะสำหรับสถานการณ์นี้ และมีราคาประมาณ $10 (~330฿) นั่นหมายความว่าการเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับกล้องจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ $20-25 (~670-840฿) ต่อปี โปรดทราบว่าตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ในประเทศไทย
คุณสมบัติ Reolink Go Plus 4G (แอพ Android)
ฉันเคยทดสอบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Reolink ที่เชื่อมต่อ WiFi หรือ/และอีเธอร์เน็ต เช่น Reolink Argus Eco และ Reolink RLC-810A แล้ว และฉันได้กล่าวถึงแอปโดยละเอียดในรีวิวก่อนหน้านี้ ดังนั้นในรีวิวนี้ ฉันจะเน้นที่ผลลัพธ์เป็นหลัก และข้อแตกต่างระหว่างกล้องรุ่นนี้กับกล้องรุ่นก่อนๆ
ฉันยังชอบอัลกอริธึมการตรวจจับยานพาหนะ/คนอยู่มาก เพราะมันดีกว่าอัลกอริธึมเฉพาะการเคลื่อนไหว PIR มาก มีผลบวกลวงน้อยกว่ามาก และใช้งานได้นานกว่าในการ์ด SD เดียวกัน ถึงแม้จะไม่สมบูรณ์แบบ เช่น ถ้ามีรถจอดอยู่ในภาพ มีนก สุนัข และวัวผ่านไปมา จะถูกตรวจพบว่าเป็นเหตุการณ์ของยานพาหนะตามค่าเริ่มต้น เนื่องจากตรวจพบการเคลื่อนไหวและรถจะปรากฎใน ภาพการตรวจสอบแม้ว่ารถจะไม่เคลื่อนที่ ยังมีอีกสถานการณ์หนึ่งที่ต้องอธิบาย โดยปกติแล้ว รถจักรยานยนต์จะถูกตรวจจับโดยตรงเป็นคนแทนยานพาหนะ
แอปพลิเคชั่นมีทั้งมุมมองสด (ซ้าย) และมุมมองการเล่น (ขวา) เมื่อฉันใช้กล้อง Reolink WiFi อื่นๆ ในอดีต ฉันมักจะไม่สามารถเล่นวิดีโอสดได้และไม่มีฟังก์ชันการเล่น ซึ่งใช้งานได้เป็นครั้งคราว และฉันโชคดีที่มีกล้องสองสามครั้ง กล้องอยู่ห่างจากเราเตอร์ประมาณ 6-7 เมตร แต่สัญญาณต้องผ่านกำแพงสามด้าน และเมื่อเกิดปัญหาขึ้น แต่เมื่อฉันใช้กล้องอัจฉริยะ Reolink Plus Go 4G ไม่มีปัญหาดังกล่าว ฉันสามารถเล่นวิดีโอได้ทุกครั้งที่ลอง สิ่งที่ใช้งานไม่ได้คือเมื่อโหลดรายการวิดีโอที่บันทึกไว้ มันติดอยู่ใน “กำลังโหลดข้อมูลวิดีโอ” ชั่วขณะหนึ่ง ฉันมักจะกลับไปและลองอีกครั้งเพื่อให้ใช้งานได้ กล้องมีประโยชน์มากในการกรองผู้คน ยานพาหนะ และการเคลื่อนไหว จากภาพหน้าจอด้านบน เราจะเห็นในหน้าจอขวาบนว่ากล้องตรวจพบเฉพาะเหตุการณ์ที่ถูกกรองในระหว่างวัน
โปรดทราบว่ากล้องรักษาความปลอดภัยพลังงานแสงอาทิตย์นั้นติดตั้งง่าย แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ปลอดภัยมากนักเนื่องจากอาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างหายไป เพื่อความปลอดภัยที่ดีที่สุด ฉันคิดว่าการเพิ่มอีเทอร์เน็ตพร้อมเครื่องบันทึกวิดีโอเครือข่ายจะเหมาะสมสำหรับการบันทึกวิดีโอ 7*24 ชั่วโมง นอกจากนี้ หากระบบ AI ในตัว ก็สามารถตั้งค่าสถานะยานพาหนะ/ผู้คนในสตรีมวิดีโอ ด้วยวิธีนี้ หากพลาดกิจกรรม คุณสามารถกลับมาดูใหม่ได้เสมอ
สามารถดาวน์โหลดวิดีโอจากแอพไปยังโทรศัพท์ของคุณได้อย่างง่ายดาย ด้านล่างนี้คือวิดีโอตัวอย่างสำหรับหนึ่งวันหนึ่งคืน:
และตัวอย่างกลางคืน:
ฉันยังใช้กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ เพื่อดูว่ามีการจัดส่งจดหมายและพัสดุเมื่อใด ซึ่งก็มีประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากตอนนี้ฉันสลับไปมาระหว่างบ้านทั้งสองหลัง ฉันสามารถซูมดูภาพได้ และแม้ว่าจะไม่มีอะไรชัดเจนเพียงพอในซอง แต่ฉันก็อาจเห็นได้ว่าผู้ส่งเอกสารกำลังส่งอะไร
กล้องยังมีลำโพงและไมโครโฟนสำหรับเสียงสองทาง แต่มีการดีเลย์ของเสียง 2-3 วินาที ดังนั้นจึงค่อนข้างอึดอัดที่จะพูดคุย แต่ฉันก็คงไม่ใช้มันเหมือนกัน อีกคุณสมบัติหนึ่งคือไซเรนซึ่งไม่น่าจะยากเกินไป
…
นี่คือตัวอย่างวีดีโอของไซเรนเริ่มต้น
และอีกอันหนึ่งที่มีเสียงที่กำหนดเอง
การตั้งค่าเหมือนกับในรีวิวครั้งก่อนๆ ของฉัน
คราวนี้ฉันลองตั้งค่า Time Lapse (การหน่วงเวลา) …
นี่คือสิ่งที่ดูเหมือน
บทสรุป
ฉันคิดว่ากล้องรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ Reolink Go Plus 4G ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทำงานบน 4G LTE ได้อย่างน่าเชื่อถือมากกว่ากล้อง WiFi ของบริษัทเล็กน้อย ฉันไม่เคยมีปัญหากับวิดีโอสดในขณะที่ใช้กล้องนี้ และการเล่นวิดีโอที่บันทึกไว้นั้นทำงานได้ดีเกือบตลอดเวลา โดยมีปัญหาหรือความล่าช้าเป็นครั้งคราวเมื่อโหลดรายการวิดีโอที่บันทึกไว้ ไม่มีอะไรจะถามอีก อันที่จริง การใช้บริการคลาวด์แบบชำระเงินของ Reolink Go Plus 4G สามารถแก้ปัญหาความล่าช้าในการโหลดรายการ แต่ที่นี่คุณต้องใส่ใจกับค่าข้อมูล นอกจากนี้ ฉันไม่เคยเห็นกล้องอัจฉริยะนี้ใช้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ และการตรวจจับยานพาหนะและผู้คนทำงานได้ดี เมื่อเปรียบเทียบกับกล้องตรวจจับความเคลื่อนไหว PIR แล้ว Reolink Go Plus 4G ช่วยลดปัญหาผลบวกที่ผิดพลาดได้อย่างมาก ช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลาได้มาก นอกจากนี้ยังขยายความจุโดยอ้อมของการ์ด microSD ซึ่งสามารถเก็บวิดีโอได้หลายวันโดยไม่ต้องกังวลว่าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลจะเต็มในไม่ช้า
สำหรับฉัน คุณภาพวิดีโอทั้งกลางวันและกลางคืนนั้นดี แม้ว่าคุณภาพของวิดีโอจะค่อนข้างด้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับคุณภาพของกล้องสปอตไลท์ในตอนกลางคืน คุณลักษณะหนึ่งที่ทำให้ฉันผิดหวังคือเสียงสองทางของกล้อง เนื่องจากเวลาหน่วงที่ตรวจพบในการทดสอบของฉันคือ 2 ถึง 3 วินาที เสียงไซเรนที่ปรับแต่งได้ของ Reolink Go Plus 4G นั้นดี แต่ไม่ดังมาก ดังนั้นโปรดคำนึงถึงสิ่งนั้นด้วย โดยรวมแล้ว จนถึงตอนนี้ ฉันพอใจกับกล้องโดยรวมและฉันจะใช้มันต่อไป
สุดท้ายนี้ ฉันขอขอบคุณ Reolink ที่ส่ง กล้องวงจรปิดอัจฉริยะ Reolink Go Plus 4G และชุดแผงโซลาร์เซลล์ที่ได้รับตรวจสอบในบทความนี้ สามารถซื้อได้ที่ Amazon ในราคา $249.99(~8,400฿) และสามารถหาได้ที่ร้าน Reolink ด้วย
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Reolink Go Plus 4G review – Part 2: A Solar-powered 4G LTE security camera with person & vehicle detection
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT