เราได้เห็น PCIe HAT(+) สำหรับ Raspberry Pi 5 ไว้หลายตัวแต่รองรับ NVMe SSD ได้แค่ 1 ตัว, Geekworm X1004 นั้นแตกต่างออกไปเพราะสามารถรองรับ SSD M.2 2280 มาตรฐานได้สูงสุด 2 ตัวผ่านคอนเนกเตอร์ PCIe ของ Pi 5 และ GPIO header 40-pin
M.2 HAT + สำหรับ Raspberry Pi 5 อย่างเป็นทางการยังไม่วางจำหน่าย แต่ตอนนี้เรามีหลายตัวเลือก เช่น PineBerry Pi HatDrive, Waveshare PCIe To M.2 HAT+, Pimoroni NVMe Base และ Geekworm X1003 และ X1004 รุ่นล่าสุดที่เพิ่มตัวเลือกด้วยการรองรับ M.2 SSD 2 ตัวสำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด 8TB
สเปคของ Geekworm X1004:
- รองรับบอร์โ SBC – Raspberry Pi 5 เท่านั้น
- ชิปเซ็ต – ASMedia ASM1182e PCI express packet switch พร้อม 1x PCIe x1 Gen2 upstream port และ 2x PCIe x1 Gen2 downstream ports
- 2x ช่อง M.2 socket สำหรับความจุสูงสุด 8TB (4TB+4TB) พร้อม M.2 NVMe solid-state drives
- การถ่ายโอนข้อมูล (data transfers) – สูงสุด 5 Gbps สำหรับ PCIe 2.0, สูงสุด 8Gbps สำหรับ PCIe 3.0 (หมายเหตุ: ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้กับ ASM1182e)
- Host interface – คอนเนกเตอร์ PCIe FFC ของ Raspberry Pi 5 (มีสาย FFC ขนาด 30 มม. ให้มาด้วย) และ GPIO header 40-pin
- การจัดการพลังงาน
- 5V DC ผ่าน GPIO header 40-pin
- 2x DC/DC step-down converters ที่สามารถให้กระแสไฟสูงสุด 3.5A+3.5A เพื่อจ่ายไฟให้กับ SSD
- รองรับ HAT+ standby power state โดยจะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อ Raspberry Pi 5 ปิด
- ขนาด – 87มม. x 57 มม.
บอร์ดขยาย Geekworm X1004 HAT+ ผลิตโดย SupTronics Technologies และเรียกอีกอย่างว่า “RPi5-PIP NVMe Shield X1004” ในข้อมูลสเปคที่บริษัทให้, ไม่ได้ระบุชื่อของ PCIe switch, แต่ถ้าฉันอ่านถูกต้องนั้นคือ ASM1182e PCIe 2.0 x1 switch ถ้าข้อมูลบนเว็บไซต์ถูกต้อง แสดงว่า PCIe Gen 3 ไม่ใช่ตัวเลือกที่เลือกได้ นั่นหมายความว่าความเร็วสูงสุดจะถูกจำกัดที่ 5 Gbps, หรือในมุมมองทางปฏิบัติ เราจะแชร์ความเร็ว 400MB/s ระหว่างอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลทั้งสองเครื่อง (200MB/s หากทั้งสองอุปกรณ์ใช้พร้อมกัน)
บางคนคิดว่าจะใช้ SSD แทน microSD card เพื่อบูตระบบปฏิบัติการบน Raspberry Pi แต่ ASM1182e ไม่ได้รับการรองรับจากเฟิร์มแวร์ของ Raspberry Pi 5 ในขณะนี้ (และไม่น่าจะเป็นไปได้) ดังนั้นคุณจึงต้องมี microSD card สำหรับบูต Raspberry Pi OS, Ubuntu 23.10 หรือระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่รองรับ และ SSD ทั้ง 2 ตัวสามารถใช้เป็นที่เก็บข้อมูลตามที่ระบุไว้ใน wiki ของ Geekworm เท่านั้น คุณอาจเชื่อมต่อฮาร์ดไดรฟ์ USB 3.0 ขนาด 8TB ที่ราคาถูกกว่าซึ่งจะสามารถให้ความเร็วในการอ่านและเขียนตามลำดับที่ยอมรับได้ (เช่น 160 MB/s สำหรับ Seagate Desktop Drive) แม้ว่าความเร็วการอ่านและเขียนแบบสุ่มจะช้าลงมาก ๆ
ถ้าคุณอยากลองใช้ Geekworm X1004 สามารถซื้อได้ใน Aliexpress ในราคา $42.99(~1,500฿) และจะวางจำหน่ายบน Amazon ในเร็วๆ นี้ ถ้าเปรียบเทียบกับ SSD HAT+ อื่นๆ สำหรับ Raspberry Pi ราคาของ Geekworm X1004 สูงกว่าอาจจะเพราะมีการใช้ PCIe switch
ที่มา : Liliputing และ MiniMachines
แปลจากบทความภาษาอักฤษ : Add two M.2 NVMe SSDs to Raspberry Pi 5 with Geekworm X1004 HAT+
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย cnx-software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IOT