EdgeBerry เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สที่ประกอบด้วยบอร์ดพื้นฐาน (Base Board), Hardware cartridges และซอฟต์แวร์ สำหรับสร้างโซลูชัน IoT Edge ที่ใช้ Raspberry Pi ซึ่งออกแบบโดย Sanne Santens ผู้ผลิตจากเบลเยียม
Edgeberry Base Board เป็นแผงวงจรพิมพ์หลักที่เชื่อมต่อส่วนประกอบอื่นๆ ทั้งหมดเข้ากับ Raspberry Pi แม้ว่าจะไม่ใช่ HAT (Hardware Attached on Top) แต่ก็สามารถเสียบเข้ากับ GPIO header บน Pi และมีอินเทอร์เฟซและฟีเจอร์บางอย่างที่ทำให้การใช้ Raspberry Pi เป็นอุปกรณ์ IoT Edge และการนำไปใช้งานจริงง่ายขึ้น ขา GPIO ที่ไม่ได้ใช้งานจะถูกเปิดเผยในช่องขยายสำหรับ Edgeberry Hardware Cartridges
สเปคของ Edgeberry Base Board:
- คอนเนกเตอร์ GPIO 40 ขาสำหรับการเชื่อมต่อกับ Raspberry Pi
- ช่องขยายสำหรับเชื่อมต่อ Edgeberry Hardware Cartridges
- ส่วนอื่น ๆ – Buzzer, LED สองสี, ปุ่ม
- ตัวแปลงลดแรงดันไฟฟ้า (step-down converter) 3A
- แจ็คไฟ DC 12V
ข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของแพลตฟอร์ม Edgeberry คือความสามารถในการเพิ่มส่วนประกอบแบบโมดูลเพื่อปรับแต่งระบบสำหรับการใช้งาน IoT Edge ที่หลากหลาย Edgeberry Hardware Cartridges เป็นฮาร์ดแวร์เฉพาะสำหรับการใช้งานที่ช่วยขยายความสามารถของ Raspberry Pi ในการจ่ายไฟให้กับ Cartridges นั้น Raspberry Pi จะจ่ายไฟ 3.3V และ Edgeberry จะจ่ายไฟ 5V โดยตรง
มี Cartridge สองแบบที่พร้อมจำหน่ายในขณะนี้ คือ Console & CAN Cartridge และ Sense’n’Drive Cartridge และ KiCad EDA template ก็ถูกเผยแพร่สาธารณะสำหรับการออกแบบตามความต้องการเอง Console & CAN Cartridge เพิ่มอินเทอร์เฟส CAN-bus และ USB ในขณะที่ Sense’n’Drive เพิ่มเอาต์พุตดิจิทัล 6 ช่องและพอร์ตเซ็นเซอร์ I²C ทั้งสอง Cartridge นี้มีประโยชน์สำหรับการใช้งาน IoT ในทางอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัยที่หลากหลาย
คุณต้องติดตั้ง Edgeberry Device Software เพื่อใช้แพลตฟอร์ม Edgeberry ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซอฟต์แวร์จะเชื่อมต่อกับ Edgeberry Dashboard โดยใช้ ID ที่ถูกโปรแกรมไว้ล่วงหน้าใน EEPROM ของ Base Board ซอฟต์แวร์นี้จัดการอินเทอร์เฟซผู้ใช้ของ Edgeberry และทำให้สามารถจัดการและควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกลได้ อินเทอร์เฟซเว็บยังไม่เสร็จสมบูรณ์ในขณะนี้ แต่คุณยังสามารถเข้าถึงหน้าเว็บ Dashboard ได้โดยตรง, Edgeberry Dashboard ช่วยให้คุณตั้งค่าและติดตามอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่าน ฐานข้อมูลส่วนกลาง (Centralized database), กำหนดสิทธิ์ผู้ใช้, และส่งอีเมลยืนยันการเปิดใช้งานบัญชีได้
โปรเจกต์นี้เป็นโอเพนซอร์สทั้งหมด โดยฮาร์ดแวร์ได้รับอนุญาตภายใต้ CERN OHL-W และซอฟต์แวร์เผยแพร่ภายใต้ GNU GPLv3 ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องของแพลตฟอร์ม Edgeberry สามารถเข้าถึงได้สาธารณะบน GitHub โปรเจกต์นี้ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา และเอกสารหรือคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นมีไม่มากนัก
Edgeberry Base Board มีราคาประมาณ $47(~1,600฿) บนเว็บไซต์ Tindie หากคุณไม่ต้องการพิมพ์เคสเอง คุณสามารถซื้อเคสที่พิมพ์ด้วย 3D ได้ในราคา $21(~700฿), Hardware cartridge ที่มีให้เลือกได้แก่ Console & CAN Cartridge $30(~1,000฿) และ Sense’n’Drive Cartridge $25(~800฿) เราเคยกล่าวถึงอุปกรณ์เสริมและโซลูชัน IoT Edge อื่นๆ สำหรับ Raspberry Pi เช่น โมดูล Pi-oT และ Pi-oT2, RP2040 Connectivity Board, และ BG95-M3 Zero และ CM4-IO-POE-4G-Box ของ Waveshare
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Edgeberry allows you to build and manage Raspberry Pi IoT Edge devices
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT