MIPI Alliance ได้เผยสเปคของ MIPI C-PHY เวอร์ชัน 3.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานเลเยอร์ทางกายภาพ สำหรับการเชื่อมต่อกล้องและจอแสดงผล โดยการเปลี่ยนแปลงหลักใน MIPI C-PHY เวอร์ชัน 3.0 คือการเพิ่มตัวเลือกการเข้ารหัสแบบ 18-Wirestate mode แทนที่การเข้ารหัสแบบ 6-Wirestate mode ที่ใช้ในเวอร์ชันก่อนหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดของแต่ละเลน C-PHY ได้ประมาณ 30 ถึง 35 เปอร์เซ็นต์
MIPI Alliance ระบุว่าการปรับปรุงนี้สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 75 Gbps ผ่านช่องสัญญาณระยะสั้น เพื่อรองรับเซ็นเซอร์ภาพความละเอียดสูงมาก ตารางด้านล่างแสดงคุณสมบัติหลักและความแตกต่างระหว่างแต่ละเวอร์ชันของสเปค MIPI C-PHY
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ อัตราสัญลักษณ์ (symbol rate) ใน MIPI C-PHY เวอร์ชัน 3.0 ลดลงเมื่อเทียบกับเวอร์ชัน 2.1 (7.0 Gsps เทียบกับ 8.0 Gsps สำหรับช่องสัญญาณระยะสั้น) แต่ความเร็วในการรับส่งข้อมูลกลับเพิ่มขึ้นจาก 18.3 Gbps เป็น 24.9 Gbps หรือเพิ่มขึ้น 36% เนื่องจากการใช้ตัวเลือกการเข้ารหัสแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นคือ 32b9s ซึ่งสามารถส่งข้อมูล 32 บิตผ่านสัญลักษณ์ 9 ตัว (คิดเป็น 3.56 บิตต่อสัญลักษณ์) โดยยังคงคุณสมบัติด้าน EMI ต่ำและใช้พลังงานต่ำอยู่
เราคาดว่าตัวเลข 75 Gbps มาจากการใช้งานช่องสัญญาณระยะสั้นจำนวนสามช่องร่วมกัน โดยการเข้ารหัสแบบใหม่จะช่วยให้รองรับแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นสำหรับกรณีการใช้งานใหม่ ๆ หรือช่วยลดอัตราสัญลักษณ์และจำนวนเลนสำหรับกรณีการใช้งานเดิมได้ MIPI Alliance คาดว่า MIPI C-PHY เวอร์ชัน 3.0 จะมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น:
- การสร้างคอนเทนต์วิดีโอระดับโปรซูเมอร์บนสมาร์ทโฟน ที่ต้องการช่วงไดนามิกสูง (HDR), การตรวจจับบริเวณที่สนใจอย่างชาญฉลาด, และการสร้างเวกเตอร์การเคลื่อนไหวขั้นสูง
- ระบบตรวจสอบด้วยภาพ (Optical Inspection) ที่สามารถตรวจจับข้อบกพร่องขนาดเล็กในสายการผลิต
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขั้นสูง (ADAS) ในรถยนต์
เราสังเกตเห็นด้วยว่าโหมดการเข้ารหัสแบบ 18-Wirestate ใหม่นั้น ขาดคุณสมบัติบางอย่างที่มีอยู่ในโหมด 6-Wirestate เช่น การเพิ่มอัตราสัญลักษณ์ (symbol rate), การลดการใช้พลังงาน, และโหมดประหยัดพลังงานแบบเดิม (legacy low power mode) แต่สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นการแลกเปลี่ยน (trade-off) ที่จำเป็นต้องยอมรับ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีขึ้นตามที่ MIPI C-PHY เวอร์ชัน 3.0 มอบให้
มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า การรองรับ C-PHY เวอร์ชัน 3.0 ได้ถูกรวมไว้ในสเปกอินเทอร์เฟซกล้องและภาพแบบฝังตัว MIPI CSI-2 เวอร์ชัน 4.1 ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายน 2024 แล้ว แม้จะดูขัดแย้งในเชิงตรรกะที่สเปคใหม่จะถูกเพิ่มเข้าไปในสเปคเดิม แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองสเปคนั้นครอบคลุมส่วนที่แตกต่างกัน (เลเยอร์ทางกายภาพ vs โปรโตคอลข้อมูล) และสามารถพัฒนาแยกจากกันได้ ตัวอย่างเช่น MIPI CSI-2 เวอร์ชัน 4.1 อาจสามารถใช้งานร่วมกับสเปก C-PHY เวอร์ชันใหม่ในอนาคตได้ นอกจากนี้ C-PHY เวอร์ชัน 3.0 ยังสามารถใช้งานร่วมกับเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างย้อนกลับ (backward-compatible) อีกด้วย
MIPI Alliance ยังได้ให้ข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับการอัปเดต MIPI D-PHY ที่จะเกิดขึ้น โดย MIPI D-PHY เวอร์ชัน 3.5 ได้เปิดตัวไปแล้วในปี 2023 และสเปกเวอร์ชัน 3.6 ที่จะตามมานั้น จะขยายการรองรับสัญญาณนาฬิกาแบบฝัง (embedded clock) สำหรับแอปพลิเคชันกล้องบนแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์พีซีและลูกข่าย (client computing) ส่วนในอนาคต MIPI D-PHY เวอร์ชัน 4.0 จะขยายการรองรับ embedded clock ให้ครอบคลุมการใช้งานด้าน machine vision ทั้งในอุปกรณ์พกพาและเกินกว่าพกพา (beyond-mobile) โดยรองรับอัตราการส่งข้อมูลที่สูงกว่า 9 Gbps ต่อเลน
สามารถดูรายละเอียดสเปคของ MIPI C-PHY v3.0 และเอกสารที่เกี่ยวข้องบน เว็บไซต์ของ MIPI แต่เปิดให้เฉพาะสมาชิกที่ชำระค่าธรรมเนียมรายปีอย่างน้อย $4000 (~130,000฿) เท่านั้น และข่าวประชาสัมพันธ์มีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : MIPI C-PHY v3.0 released with 18-Wirestate mode encoding increasing the per-lane performance by up to 35 percent

บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT