Raspberry Pi Imager 2.0 ออกแล้ว พร้อมอินเทอร์เฟซใหม่และรองรับ Raspberry Pi Connect

Raspberry Pi เพิ่งปล่อย Raspberry Pi Imager 2.0 เวอร์ชันล่าสุด ที่มาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่ ทั้งอินเทอร์เฟซใหม่แบบ Wizard ใช้งานง่ายกว่าเดิม และตัวเลือกใหม่สำหรับ Raspberry Pi Connect เพื่อการเข้าถึงอุปกรณ์ระยะไกล นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีกหลายอย่าง

Raspberry Pi Imager เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2020 เพื่อให้การการแฟลชอิมเมจ OS ลง microSD card ทำได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องดาวน์โหลดอิมเมจจากเว็บไซต์แล้วแฟลชเองผ่านเครื่องมืออย่าง dd ในบรรทัดคำสั่ง, Win32DiskImager หรือ BalenaEtcher เพียงเลือกรุ่น Raspberry Pi ของคุณ, เลือกอิมเมจจากรายการที่จัดไว้ให้ และเลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ก็พร้อมใช้งานได้ทันที ฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากคือ OS Customization แต่รายการตัวเลือกมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีการออก Raspberry Pi Imager 2.0 เวอร์ชันใหม่ออกมา

ไฮไลต์ของ Raspberry Pi Imager 2.0:

อินเทอร์เฟซใหม่ (New UI)
ตัวติดตั้งใหม่บน Windows
อัลกอริทึมการเขียนข้อมูลใหม่
อัลกอริทึมการดาวน์โหลดใหม่
ระบบคำอธิบายสำหรับการเข้าถึง (Accessibility annotations)
รองรับ Raspberry Pi Connect
นำทางด้วยคีย์บอร์ดได้ดีขึ้น
ระบบป้องกันข้อผิดพลาด (Enhanced guardrails)
เพิ่มแพ็กเกจแบบ CLI-only
และอื่น ๆ …

มาลองใช้งานกัน, สามารถดาวน์โหลด Raspberry Pi Imager 2.0 สำหรับ Windows, macOS หรือ Linux ได้จาก GitHub หรือหน้า Software download page บนเว็บไซต์ Raspberry Pi, เราใช้ Ubuntu 24.04 จึงดาวน์โหลดไฟล์ Raspberry_Pi_Imager-v2.0.0-desktop-x86_64.AppImage, เพราะไม่มีแพ็กเกจ .deb ให้, ใช้คำสั่ง sudo :

sudo ./Raspberry_Pi_Imager-v2.0.0-desktop-x86_64.AppImage

ถ้าไม่ได้ใช้ด้วยคำสั่ง sudo โปรแกรมจะแจ้งข้อผิดพลาดว่าไม่มีสิทธิ์เพียงพอ ขั้นตอนแรกคือเลือกบอร์ด -> เลือก OS

…และสุดท้ายก็เลือกอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล (Storage device) ซึ่งคล้ายกับ Raspberry Pi Imager เวอร์ชันเดิม แต่เวอร์ชัน 2.0.0 ใช้ระบบ Wizard ทำให้การเลื่อนผ่านหลายหน้าจออาจช้ากว่าเล็กน้อย

แต่จุดเด่นคือหน้าจอ Customization แบบใหม่ UI ใหม่จัดหมวดหมู่ชัดเจน รองรับการขยายตัวเลือกในอนาคต ตัวแรกคือการตั้งค่า Hostname

Time zone, Keyboard layout และตัวเลือกอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับระบบ

Raspberry Pi Connect ก็สามารถเปิดใช้งานได้ตั้งแต่ขั้นตอนแฟลช ไม่ต้องรอให้ OS ติดตั้งเสร็จแล้วเปิดจากเครื่องอีกต่อไป

ถ้าไม่ต้องการปรับแต่งใด ๆ สามารถกด SKIP CUSTOMISATION ได้ตลอด หน้าสุดท้ายจะแสดงบอร์ดที่เลือก OS อุปกรณ์จัดเก็บ และค่าปรับแต่งทั้งหมด

สามารถกด WRITE เพื่อเริ่มกระบวนการแฟลชอิมเมจ OS ได้ แต่เราข้ามขั้นตอนนี้เพราะในไดรฟ์มีข้อมูลที่สำคัญอยู่… สำหรับการอ้างอิง นี่คือการตั้งค่า OS customization ของ Raspberry Pi Imager รุ่น 1.x

Raspberry Pi Imager 1.9.6 OS customization settings — การตั้งค่า OS customization ของ Raspberry Pi Imager รุ่น 1.9.6

ที่มุมล่างซ้ายมีปุ่ม APP OPTIONS ให้ตั้งค่าต่าง ๆ เช่น เปลี่ยนแหล่งที่เก็บอิมเมจ สำหรับผู้ที่โฮสต์อิมเมจของตัวเอง

สำหรับผู้ที่ชอบใช้งานผ่านเทอร์มินัล Raspberry Pi Imager 2.0 มีเครื่องมือ เครื่องมือ Raspberry Pi Imager CLI แยกต่างหาก รองรับการปรับแต่งผ่าน bash scripts และ cloud-init

jaufranc@CNX-LAPTOP-5:~/Downloads$ ./Raspberry_Pi_Imager-v2.0.0-cli-x86_64.AppImage --help
Usage: /tmp/.mount_RaspbelJefDA/usr/bin/rpi-imager-cli [options] src dst

Options:
  -h, --help                                         Displays help on
                                                     commandline options.
  --help-all                                         Displays help, including
                                                     generic Qt options.
  -v, --version                                      Displays version
                                                     information.
  --disable-verify                                   Disable verification
  --enable-writing-system-drives                     Only use this if you know
                                                     what you are doing
  --sha256 <sha256>                                  Expected hash
  --cache-file <cache-file>                          Custom cache file
                                                     (requires setting sha256 as
                                                     well)
  --first-run-script <first-run-script>              Add firstrun.sh to image
  --cloudinit-userdata <cloudinit-userdata>          Add cloud-init user-data
                                                     file to image
  --cloudinit-networkconfig <cloudinit-networkconfig Add cloud-init
  >                                                  network-config file to
                                                     image
  --disable-eject                                    Disable automatic ejection
                                                     of storage media after
                                                     verification
  --debug                                            Output debug messages to
                                                     console
  --quiet                                            Only write to console on
                                                     error
  --secure-boot-key <key-file>                       Path to RSA private key
                                                     (PEM format) for secure
                                                     boot signing

Arguments:
  src                                                Image file/URL
  dst                                                Destination device

jaufranc@CNX-LAPTOP-5:~/Downloads$ ./Raspberry_Pi_Imager-v2.0.0-cli-x86_64.AppImage --help

Usage: /tmp/.mount_RaspbelJefDA/usr/bin/rpi-imager-cli [options] src dst

Options:

-h, --help Displays help on

commandline options.

--help-all Displays help, including

generic Qt options.

-v, --version Displays version

information.

--disable-verify Disable verification

--enable-writing-system-drives Only use this if you know

what you are doing

--sha256 <sha256> Expected hash

--cache-file <cache-file> Custom cache file

(requires setting sha256 as

well)

--first-run-script <first-run-script> Add firstrun.sh to image

--cloudinit-userdata <cloudinit-userdata> Add cloud-init user-data

file to image

--cloudinit-networkconfig <cloudinit-networkconfig Add cloud-init

> network-config file to

image

--disable-eject Disable automatic ejection

of storage media after

verification

--debug Output debug messages to

console

--quiet Only write to console on

error

--secure-boot-key <key-file> Path to RSA private key

(PEM format) for secure

boot signing

Arguments:

src Image file/URL

dst Destination device

นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน “Embedded” สำหรับ Aarch64 ซึ่งคาดว่าเป็นตัวที่ทำงานใน bootloader เมื่อใส่ microSD แบบสีดำใน Raspberry Pi

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Raspberry Pi Imager 2.0 released with a revamped user interface, Raspberry Pi Connect support

Suthinee Kerdkaew

บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT