ในบทความนี้เราจะรีวิว SONOFF Mini Extreme หรือ MINIR4 สวิตช์อัจฉริยะ WiFi (หรือ WiFi smart switch) ที่ใช้ ESP32 wireless MCU โดยติดตั้งไว้ในบล็อคสวิตช์ไฟติดผนังและแอปพลิเคชันมือถือ eWelink สำหรับ Android สำหรับ Android และ SONOFF R5 scene control
การติดตั้ง SONOFF MINIR4
เราได้ดูข้อมูลสเปค, การแกะกล่อง และรายละเอียดอื่นๆ ในการประกาศกันไปแล้ว ดังนั้นฉันจะไปที่การติดตั้งในบล็อคสวิตช์ไฟ ขนาดประมาณ 11×6 ซม. เป็นขนาดบล็อคในประเทศไทย
จะมีรูปแบบและขนาดใกล้เคียงกับ ZBMINI Extreme Zigbee Smart Switch แต่สวิตช์ MINIR4 WiFi ต้องใช้สาย N ( Neutral) และฉันต้องใช้สาย N จากบล็อคเต้าเสียบด้านล่าง
บล็อคไม่ใช่กล่องแต่เป็นการเจาะรูกำแพงที่เหมือนกล่องการต่อสายไฟเป็นเรื่องง่ายเพียงเชื่อมต่อสวิตช์ไฟเข้ากับ S1 และ S2 โดยใช้สายสั้น สอดสายไฟที่ก่อนหน้านี้ไปที่สวิตช์ไฟเข้ากับ L in สายไฟที่ออกจากสวิตช์ไปยัง L out และสุดท้ายคือสาย N ต่อไปยังหนึ่งพอร์ต N บน MINIR4
ฉันไม่ได้ใช้พอร์ต N ทางด้านซ้ายเพราะไฟเชื่อมต่อกับสาย N จากที่อื่นในบ้านแล้ว สวิตช์ SONOFF MINIR4 พอดีกับบล็อค แต่ยังคับแน่น แต่ก็ดูเรียบร้อยและ/หรือง่ายกว่าการติดตั้งสวิตช์ WiFi ใกล้กับไฟบนเพดาน
โปรดจำไว้ว่าเรามีการใช้ไฟฟ้าระดับ 110V หรือ 220V ที่นี่ และเพื่อความปลอดภัยของคุณและ/หรือครอบครัวของคุณ หากคุณไม่รู้สึกสบายในการติดตั้งเองหรือไม่มีความรู้เรื่องไฟฟ้าเพียงพอ โปรดไปหาช่างไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติเพื่อให้เขาทำการติดตั้งให้คุณ
เมื่อการติดตั้งเสร็จสิ้น จะไม่เห็นถึงความแตกต่างระหว่างสวิตช์ไฟตัวเก่ากับสวิตช์อัจฉริยะตัวใหม่ของเรา
ฉันยังสามารถเปิดและปิดไฟได้ตามปกติก่อนที่จะติดตั้งแอป ดังนั้นทุกอย่างเรียบร้อยดีและดูเหมือนว่าการติดตั้งจะสำเร็จ SONOFF MINIR4 มีการหน่วงเวลาเล็กน้อย ไม่เกิน 500 มิลลิวินาที
การควบคุม MINIR4 ด้วยแอป eWelink
ฉันได้ใช้อุปกรณ์ SONOFF ด้วยแอป eWelink สำหรับ Android หลายครั้งแล้ว และแอปนี้ค่อนข้างใช้งานง่าย ดังนั้นฉันจะไม่ลงรายละเอียดการเพิ่ม MINIR4 ให้กับ eWelink แต่ประเด็นสำคัญคือต้องเลือก Bluetooth pairing, เลือกเชื่อมต่อ WiFi 2.4 GHz ใส่รหัสผ่าน และตั้งชื่ออุปกรณ์ ฉันได้ตั้งชื่อว่า “ไฟเพดาน”
จากนั้นฉันสามารถเปิดและปิดไฟได้อย่างง่ายดาย โดยมีการแจ้งเตือนให้ทราบว่าการสั่งงานได้สำเร็จ สำหรับเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวที่ดีขึ้น คุณอาจต้องการตั้งค่าเครือข่าย Guest WiFi/SSID ใน Router Reserved สำหรับอุปกรณ์ IoT/Smart Home ทั้งหมดของคุณแยกจากคอมพิวเตอร์และ NAS ที่อาจจะเก็บข้อมูลค่าเฉพาะของคุณไว้มากกว่านี้ ดังนั้นหากบริษัทถูกแฮ็กหรือคุณไม่ไว้วางใจจะมีการเข้าถึง ได้ง่ายได้เพียงผ่านเครือข่ายสำหรับ Guest network เท่านั้น
เมื่อแตะที่ชื่ออุปกรณ์ เราจะมีตัวเลือกฟังก์ชันพื้นฐาน เช่น การสร้างตารางการทำงาน (Schedule), การตั้งเวลา ปิดหรือเปิด (Timer), และตั้งเวลาปิดหรือเปิดแบบวนลูป (Loop Timer) ทั้งหมดทำงานตามที่คาดหวังไว้
สิ่งสำคัญคือต้องเลือกวนลูป (Loop method) เป็น “Alternate” ในโหมด Loop timer มิฉะนั้นจะเป็นการเปิดหรือปิดซ้ำตลอดเวลาโดยโดยไม่มีการสลับไปมา เมื่อเลือกวิธี “Alternate” คุณจะสามารถเลือกตั้งเวลาสำหรับการเปิดหรือปิดได้ ฉันยังไม่แน่ใจว่ากรณีการใช้งานนี้มีประโยชน์ในการใช้งานแบบไหน
เมื่อแตะไอคอน ที่มุมขวาบน เราจะสามารถเข้าถึงการตั้งค่าอุปกรณ์ พร้อมมีข้อมูลบางอย่าง เช่น การอัปเดต Firmwareและรองรับแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เช่น Amazon Alexa, Google Home, IFTT, Alice และบริการคลาวด์อื่นๆ ของจีน
ฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ Switch Mode เพื่อใช้งานร่วมกับสวิตซ์ภายนอก มี 3 โหมด ได้แก่ Pulse mode ใชงานร่วมกับสวิตซ์ Push หรือสวิตซ์ปุ่มกด, Edge mode เป็นโหมดเริ่มต้น โดยใช้งานกับ Rocker Switch หรือ สวิตช์แบบกระดก, Following mode ทำงานเหมือน Edge mode แต่มีการตรวจสอบสถานะของสวิตซ์ให้ตรงกันกับตรงข้ามกับสวิตซ์ภายนอก นอกจากนี้ยังมีโหมด Detached Relay สามารถเลือกว่าเราจะให้สวิตซ์ล็อกคำสั่งจากสวิตซ์ภายนอกต่อหรือไม่ ดังนั้นสวิตช์จะถูกควบคุมโดยแอปพลิเคชั่นเท่านั้น ซึ่งอาจมีประโยชน์ในสถานที่สาธารณะ
eWelink Web
eWelink Web ฟีเจอร์ใหม่ที่ฉันไม่เคยลองมาก่อน ซึ่งช่วยให้จัดการและควบคุมอุปกรณ์ SONFF ของคุณจากเว็บเบราว์เซอร์ โดยจะต้องไปที่ web.ewelink.cc และป้อนข้อมูลการเข้าสู่ระบบ eWelink ที่เคยได้ใช้ในแอปมือถือ eWelink
นั่นเป็นคุณสมบัติระดับพรีเมียม eWelink Advanced ที่เสียค่าใช้จ่าย แต่เราสามารถลองใช้ฟรีได้ 7 วัน
การทดลองใช้ฟรีนี้จะต้องตอบคำถามเกี่ยวกับความชอบของการออกแบบการอัพเดตบ้านของคุณ และการอนุมัติจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าสู่ระบบ, สามารถเห็นและเปิด / ปิด “ไฟเพดาน” ของฉันและอุปกรณ์ SONOFF อื่น ๆ ที่เคยใช้ในบทความก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่นั่นและมีสถานะเป็นออฟไลน์ในขณะนี้
อินเทอร์เฟซยังอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อ ปิด/เปิดการแสดงสัญญาณเครือข่ายบน MINIR4 ตั้งค่าโหมด i nching ระบุสถานะพลังงาน และอัปเกรดเฟิร์มแวร์ ฉันได้ทำการอัปเกรดเฟิร์มแวร์แล้วและสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
อินเทอร์เฟซยังอนุญาตให้ฉันเปลี่ยนชื่อ ปิด/เปิดใช้งานตัวบ่งชี้เครือข่ายบน MINIR4 ตั้งค่าโหมด i nchingระบุสถานะพลังงาน ฉันได้ทำการอัปเกรดเฟิร์มแวร์แล้วและสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
สุดท้ายนี้ สามารถกำหนด scenes ได้หากมีเซ็นเซอร์อื่นๆ เช่นเดียวกับในแอปมือถือ eWelink
SONOFF R5 scene controller
การควบคุมไฟด้วยสมาร์ทโฟนเป็นเรื่องปกติ และหากคุณไม่ต้องการเปิดแอปสมาร์ทโฟน (โดยปกติฉันจะใช้เวลา 20 ถึง 25 วินาทีในการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อเปิดไฟ) และไม่ใช้ผู้ช่วยเสียง เพื่อเปิดหรือปิดไฟ การควบคุมผ่าน SONOFF R5 scene controller เป็นคู่หูของ MINIR4 เนื่องจากมีสวิตช์ที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้จากทุกที่ด้วยช่วง Bluetooth LE range
ดังนั้นฉันจึงขออุปกรณ์ SONOFF R5 อีกหนึ่งเครื่องเพื่อรีวิว…และตอนนี้สินค้าก็มาถึง
SONOFF R5 scene controller 6 ปุ่ม มาพร้อมกับสติกเกอร์สัญลักษณ์รูปแบบต่างๆ เพื่อติดที่ตัวสวิตซ์, คู่มือการใช้งาน, สกรูสองตัว และเทปกาวสองหน้า 3M สองแผ่นสำหรับติดตั้ง
ฝาหลังติดอยู่กับตัวเครื่องผ่านแม่เหล็กและสามารถถอดออกได้ง่าย มีแถบกระดาษของแบตเตอรี่ CR2032 เพื่อป้องกันป้องกันการรั่วไหลระหว่างการจัดเก็บและ/หรือการขนส่ง
การแกะชิ้นส่วนยืนยันว่า R5 controller ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ coin-cell CR2032 สองก้อน
และชิปหลักถูกระบุว่าเป็น AK803A-S1 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นชิป “BLE iBeacon” จาก AllLink
อีกด้านของบอร์ดไม่มีอะไรเลยนอกจากปุ่มควบคุมการทำงานของอุปกรณ์
ขอเริ่มต้นจากการประกอบอุปกรณ์ใหม่เพื่อติดตั้ง SONOFF R5 ฉันตั้งใจจะติด SONOFF R5 นี้ไว้ที่ตู้ข้างเตียง ดังนั้นจึงใช้เทปกาวสองหน้า 3M ที่ให้มา
และติดสติกเกอร์ช่อง 1 และ 2 พร้อมติดตั้ง SONOFF R5 SwitchMan ไว้ที่ตู้ข้างเตียง
เมื่อติดตั้งฮาร์ดแวร์เสร็จ ฉันไปที่แอป eWelink ไปที่ Device Settings และเลือก eWelink-Remote sub-devices เพื่อเพิ่มควบคุม R5 controller ในแอป
นั่นเป็นเรื่องง่ายมาก จากนั้นฉันไป Scene ในแอป eWelink เพื่อเพิ่ม Scene ที่จะเปิดไฟเพดานเมื่อกดปุ่มช่องที่ 1 (ปุ่มด้านบนซ้าย) และ Scene อีกอันเพื่อปิดไฟเมื่อกดปุ่มช่องที่ 2 (ปุ่มทางด้านขวาของช่องที่ 1)
ความขี้เกียจของฉันก็มีความสุขมากแล้ว เพราะฉันสามารถควบคุมไฟเพดานจากเตียงได้โดยไม่ต้องลุกขึ้นหรือวุ่นวายและใช้เวลาเจรจาต่อรองกับคนที่นอนข้างๆ
จุดสำคัญประการหนึ่งคือปุ่มต่างๆ รองรับการสั่งงาน 3 รูปแบบ ได้แค่ คลิก 1 ครั้ง, ดับเบิี้ลคลิก และกดค้างไว้ ดังนั้นหากกดปุ่มนานเกินไปหรือกดหลายครั้ง จะไม่ตรวจจับเหตุการณ์การกดคลิก 1 ครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดปุ่มเดียวสำหรับงานนี้ได้โดยใช้โหมดแบบอื่นเพื่อเปิดไฟเมื่อไม่ได้เปิด และปิดไฟเมื่อเปิดอยู่แล้ว โดยเรายังสามารถกำหนด Scene อื่นๆ ให้กับ R5 controller เช่น เปิดไฟหลังจาก 8 ชั่วโมงเป็นนาฬิกาปลุก, ควบคุมสวิตช์ MINIR4 WiFi เพิ่มเติม หรืออุปกรณ์ SONOFF อื่นๆ ที่รองรับ eWelink Remote
สรุป
SONOFF MINIR4 เป็นสวิตช์ขนาดจิ๋วที่ง่ายต่อการติดตั้งและพอดีกับบล็อคสวิตช์ส่วนใหญ่ แต่ตรงกันข้ามกับ ZBMINIL2 คือต้องมีสาย Neutral ในการติดตั้ง ส่วน SONOFF R5 SwitchMan scene controller คู่หูที่ดีสำหรับ MINIR4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีสวิตช์หลายตัวติดตั้งในบ้าน
ฉันขอขอบคุณบริษัท ITEAD ที่ส่งตัวอย่างมาให้รีวิว, SONOFF ขาย MINI Extreme (MINIR4) ในราคา $9.90 (~340฿) พร้อมจัดส่งฟรีถ้าสั่งซื้อผลิตภัณ์ฑ์ SONOFF มากกว่า $89(~3,000฿) และภ้าต้องการ R5 scene control ราคา $12.49 (~430฿)และมีคูปองโค้ด CNXSOFTSONOFF สามารถลดราคา 10% ด้วย
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : SONOFF MINIR4 review – A Tiny WiFi Smart Switch tested with eWelink app/web, and R5 controller
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT