การทำแผนที่โดรนที่รองรับระบบ Remote ID ด้วย ESP32-C3/S3 และโมดูล Meshtastic LoRa

Colonel Panic’s Mesh Mapper เป็นโครงการที่ออกแบบมาเพื่อทำแผนที่ของโดรนที่ส่งสัญญาณ Remote ID ของ FAA ผ่าน WiFi หรือ Bluetooth โดยสามารถบันทึกข้อมูลตำแหน่ง ความสูง ตำแหน่งของผู้ควบคุม และข้อมูลระบุตัวตนของโดรนได้

โครงการนี้ใช้ ESP32-C3 หรือ ESP32-S3 ในการดักจับสัญญาณ Remote ID ของโดรนที่อยู่ในระยะ แล้วส่งข้อมูลไปยังเว็บแอปพลิเคชัน Python Flask ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Mesh Mapper เพื่อแสดงผลและบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์ Meshtastic ช่วยให้โหนดตรวจจับหลายตัวสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันผ่านเครือข่ายแบบ mesh ได้ ดังนั้นจึงสามารถติดตั้ง ESP32 หลายจุดในพื้นที่ เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีโดรนบินเข้ามาในบริเวณบ้านหรือละแวกของคุณได้

Mesh Detect ESP32-S3 LoRaWAN board

แม้ว่าคุณจะสามารถใช้บอร์ด ESP32-C3/S3 และฮาร์ดแวร์ Meshtastic ของคุณเองสำหรับโปรเจกต์นี้ได้ แต่ Colonel Panic ได้ออกแบบ breakout board สำหรับโมดูล XIAO ESP32C3 หรือ ESP32S3 (WiFi & Bluetooth) และ Heltec LoRa 32 V3 ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต serial เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น อุปกรณ์อย่าง XIAO ESP32S3 for Meshtastic & LoRa devkit ก็อาจใช้งานได้เช่นกัน แต่เท่าที่ทราบยังไม่มีการทดสอบกับ Mesh Mapper โดยตรง

Mesh Detect Breakout board
Mesh Detect Breakout board

โมดูล ESP32 จะทำงานด้วยเฟิร์มแวร์ Mesh Mapper สำหรับส่งต่อข้อมูล Remote ID ของโดรนผ่าน WiFi/Bluetooth ไปยัง Meshtastic ส่วนโมดูล Heltec LoRa จะรันเฟิร์มแวร์ Meshtastic เท่านั้น คุณสามารถหาโค้ดต้นฉบับของเฟิร์มแวร์และทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับเริ่มต้นใช้งานได้บน GitHub.

การติดตั้งและใช้งานเซิร์ฟเวอร์ Mesh Mapper นั้นทำได้ง่าย ขั้นตอนที่เราทำบน Ubuntu 24.04 มีดังนี้:


นี่คือผลลัพธ์จากคำสั่งสุดท้าย:


มีการแจ้งว่าหน้าเว็บสามารถเข้าถึงได้ที่ http://localhost:5000, ดังนั้นเรามาลองเปิดดูเลย:

Mesh Mapper Web UI

ถ้าคุณยังไม่มีฮาร์ดแวร์อยู่ในมือ คุณสามารถจำลองโดรนได้ด้วย “Arizona Desert Test Suite” ที่อยู่ใน mapper_test มาลองใช้งานกัน:


ตอนนี้เราสามารถเห็นโดรนห้าลำบนหน้าเว็บ โดยมีการอัปเดตตำแหน่งแบบเรียลไทม์แล้ว

Mesh Mapper Drone Simluation

MAC addresses ของโดรนจะแสดงอยู่ในหน้าจอจำลอง แต่คุณสามารถสร้างชื่อเล่น (alias) เพื่อให้แสดงชื่อที่อ่านง่ายและเข้าใจมากขึ้นได้ Colonel Panic ยังได้แชร์คำแนะนำที่ละเอียดกว่า พร้อมภาพหน้าจอบางส่วนไว้บน on Hackster.io. So let’s have a quick look.

Mesh Mapper Map drone detection

ภาพหน้าจอด้านบนแสดงแผนที่ที่มีโดรนห้าลำจากการจำลอง ส่วนภาพด้านล่างเป็นการซูมเข้ามาและแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับโดรนหนึ่งลำและผู้ควบคุมโดรนนั้น

Mesh Mapper Remote ID Drone Mapping

การทดสอบด้วยฮาร์ดแวร์จริงแสดงให้เห็นว่าระยะตรวจจับอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลเมตรในสภาพแวดล้อมในเมือง และ 10 ถึง 15 กิโลเมตรในพื้นที่เปิดกว้าง โดยใช้เสาอากาศที่ดีและมีการครอบคลุมซ้อนทับกันเพื่อขจัดจุดบอดเมื่อใช้หลายอุปกรณ์ร่วมกัน

โครงการนี้มีประโยชน์สำหรับการศึกษา การวิจัย การปกป้องความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยส่วนบุคคล เช่น การติดตามกิจกรรมรอบ ๆ สถานที่ที่มีความสำคัญ เช่น บ้านหรือธุรกิจของคุณ หากคุณต้องการใช้ฮาร์ดแวร์ Mesh Detect สำหรับโครงการนี้ Breakout board สามารถซื้อได้ที่ Tindie ในราคา $15 (~500฿) และชุดอุปกรณ์ที่ประกอบเสร็จพร้อมใช้งานราคา $100 (~3,300฿)

มีวิดีโอของ FAA เกี่ยวกับระบบ Remote ID ไว้ด้วย และจากความคิดเห็นใน YouTube พบว่ากฎนี้ครอบคลุมโดรนพลเรือนทุกลำ หลายคนไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้เพราะกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว และเพราะโดรนที่มีอยู่เดิมต้องติดตั้งโมดูล Remote ID module, เพิ่มเติมทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นต้องบอกว่ากฎนี้ไม่จำกัดเฉพาะในสหรัฐฯ เท่านั้นเพราะในสหภาพยุโรปมีข้อบังคับ Remote ID ของตัวเอง รวมถึงประเทศอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ส่วนประเทศไทยขณะนี้ยังไม่มีการบังคับใช้ระบบ Remote ID สำหรับโดรนอย่างเป็นทางการ

;

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Map Remote ID-enabled drones with ESP32-C3/S3 and Meshtastic LoRa modules

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
โฆษณา