เราได้รับ Smart Wall Switch ตัวล่าสุดจาก SONOFF ที่มีชื่อว่า SwitchMan Smart Wall Switch-M5 (Matter) เราจะเรียกมันสั้นว่า M5 Matter แน่นอนมันเป็นรุ่นที่สนับสนุน Matter (over Wifi) ตัวนี้มีความคล้ายคลึงกับรุ่นพี่ SwitchMan Smart Wall Switch-M5 มากๆเพียงแต่มันมี Matter เพิ่มขึ้นมา M5 Matter จะเป็นตัวเลือกอีกทางเพื่อให้มันสามารถนำไปใช้กับ แพลตฟอร์ม Smart Home ค่ายอื่นๆที่สนับสนุน Matter ได้อย่างง่าย อุปกรณ์ M5 Matter ตัวนี้เป็นอุปกรณ์ตัวที่ 2 จาก SONOFF ที่สนับสนุน Matter เราได้เคยรีวิว SONOFF Mini 4M ซึ่งเป็น Matter ตัวแรกไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
Matter พัฒนาโดย CSA(Connectivity Standards Alliance) ซึ่งสนับสนุนโดยหลายๆบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Apple, Amazon, Google, LG, Samsung ไปจนถึงบริษัทเล็กๆ เป็นความหวังของสาวก Smart Home ที่ต้องการมีมาตรฐานกลางในการสื่อสารกันระหว่างอุปกรณ์ สร้างทางเลือกที่มากขึ้น รวมถึงราคาที่ถูกลง
เอาล่ะ เรามาดูกันในรายละเอียดกัน
มาแกะกล่องมากัน
ตัวที่เราได้มาจะเป็นขนาด 3 Gang type 86 ซึ่งจริงๆมันมีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 Gang และ type 120,80,86 ตอนนี้มีสีขาวเท่านั้น ภายในกล่องก็จะมีตัว M5 Matter, คู่มือขนาดจิ๋ว และเอกสาร QR Code เพื่อการลงทะเบียนในมาตรฐานของ Matter
และเช่นเคยเราก็ได้ทำการแงะเข้าไปดูด้านใน โดยต้องถอดหน้ากากออกก่อนแล้วใช้ไขควงขันน็อตออกไป ก็จะพบกับแผงวงจรที่มีชิป ESP32 ที่เป็นหัวใจการควบคุมอยู่ ซึ่งก็จะเหมือนรุ่นพี่ SmartMan M5 จุดนึงที่แตกต่างคืออุปกรณ์ Matter ของ SONOFF จะทำการแฟลช firmware เป็นตัวอื่นๆไม่ได้ หากสาวก DIY ที่อยากจะแฟลชก็เลือกรุ่นพี่ M5 มาทำแทนได้ สิ่งที่ควรจะพิจารณาก่อนทำการแฟลชก็คือ การแฟลชจะเป็น one way คือไม่สามารถกลับมาใช้ original firmware ของ SONOFF ได้อีก
สเปค
การทำงานใน Smart Home Platform ต่างๆ
ข้อดีของ Matter คือมันตั้งใจที่จะเป็นมาตรฐานกลางของค่ายต่างๆที่ทำให้อุปกรณ์ Smart Home ต่างค่ายสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างง่าย เพิ่มทางเลือกของผู้บริโภค แต่ขณะเดียวกันมันก็มีจุดด้อยเหมือนกันคือ ในความเป็นมาตรฐานกลางซึ่งมันก็จะไม่ครอบคลุมทุกฟีเจอร์ที่อุปกรณ์นั้นมีหากเทียบกับการใช้ Native App ของค่ายนั้นที่สามารถดึงความสามารถทั้งหมด ลูกเล่น ออกมาได้ ดูภาพประกอบด้านล่างเปรียบเทียบการนำ M5 Matter ไปทำงานในแพลตฟอร์มต่างๆ
จากที่กล่าวมาค่าย SONOFF ซึ่งใช้ eWelink แอปมาตลอดจะได้ฟีเจอร์ในอุปกรณ์ออกมามากที่สุด เมื่อใดที่นำไปใช้กับค่ายอื่นๆตามมาตรฐาน Matter ฟีเจอร์บางตัวอาจจะใช้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามในการใช้งานของ Matter เราสามารถแชร์อุปกรณ์ข้ามค่ายได้และทำงานร่วมกัน (Synchroise) โดยที่ไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เราอาจจะลงทะเบียน M5 Matter ที่ eWeLink แล้วค่อยแชร์การเข้าถึงไปที่ Apple Home การทำแบบนี้ทำให้เราได้ประโยชน์สูงสุด เพราะว่าหากเราต้องการฟีเจอร์ที่มันเฉพาะเจาะจงและไม่อยู่ในมาตรฐาน Matter เราก็สามารถ Enable / Setting ผ่าน eWeLink ได้ เช่น พวก Inching , Power On State,eWeLink Remote Gateway ซึ่งเราจะไม่เห็นพวกนี้ใน Apple Home แต่ก็ยังได้ใช้ประโยชน์จากมันแม้ว่าเราจะใช้ Apple Home เป็นหลัก
การทำงานกับ eWeLink
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ฟีเจอร์ใน eWeLink ที่เราเจอในรุ่นพี่ M5 ก็จะมีเหมือนกันใน M5 Matter ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเวลา, ตั้งถอยหลัง, ทำ Inching , Power On State, ปรับแสงสว่างของปุ่มกด, การแจ้งเตือน เป็นต้น เราจะไม่ลงรายละเอียดของฟีเจอร์เหล่านี้ แต่จะเน้นไปที่สิ่งใหม่ๆที่มี เช่น Matter
การเพิ่ม M5 Matter เข้าไปใน eWeLink ก็จะเหมือนอุปกรณ์ของ SONOFF ทั่วๆไป ทำโดยการกดปุ่ม + ที่มุมบนขวาและอุปกรณ์ต้องอยู่ในสถานะ Pairing Mode จากภาพด้านล่างหน้าตาใน eWeLink ของ M5 Matter จะเหมือนกับรุ่นพี่ M5 ทุกประการ ยกเว้นตรงภาพขวาสุดที่อยู่ใน Setting ของตัวอุปกรณ์จะมีปุ่ม Enable Paring Mode เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นปุ่มที่เราต้องใช้หากจะต้องแชร์อุปกรณ์นี้ผ่าน Matter ไปยัง Smart Home ค่ายอื่น และนั่นคือขั้นตอนต่อไปที่เราจะทำ โดยจะใช้ Apple Home มาเป็นตัวทดสอบ
การทำงานกับ Apple Home ผ่าน Matter
หลังจากเราลงทะเบียน M5 Matter กับ eWeLink ในขั้นตอนข้างต้นแล้ว จากนี้เราจะทำการละเบียนกับ Apple Home ด้วย ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถใช้งานพร้อมๆกันได้
ขั้นตอนจะต้องไปที่ Setting ของ eWeLink ก่อน (แพลตฟอร์มที่เราลงทะเบียนครั้งแรก) แล้วกด Pairing Mode จะเห็น QR Code และ Code ให้ทำการ copy ตัวเลขเก็บไว้ก่อน จากนั้นไปที่ Apple Home แอปแล้วทำการเพิ่มอุปกรณ์ ให้เลือก More Option และ Enter Setup Code (ตามรูปเลย) จากนั้นก็ paste ตัวเลขมาใส่ จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนใน Apple Home ในการตั้ง Location ตั้งชื่อ และสามารถแก้ไขรายละเอียดเช่น เปลี่ยนจากปลั๊กเป็นไฟส่องสว่าง เพียงไม่กี่นาทีเราก็ได้ M5 Matter ไปโผ่ลที่ Apple Home พร้อมใช้งาน มันง่ายจริงสิ เจ้า Matter นี่!
เช่นเดียวกันถ้าหากเรานำ M5 Matter ไปใช้กับแพลต์ฟอร์ม Smart Home ค่ายอื่นๆอีก เช่น Amazon Alexa, Home Assistant หรือ Google Home ก็ให้ทำตามขั้นตอนเดิม ซึ่งเราสามารถแชร์ M5 Matter ไปได้หลายๆแฟลตฟอรม์เลยทีเดียว
อย่างที่กล่าวไปเรื่องมาตรฐาน Matter มันไม่ได้ลงลึกไปถึงจุดเด่นของอุปกรณ์นั้นๆ ถ้าจะให้ดีสุดก็ใช้แพลต์ฟอร์มหลักของอุปกรณ์นั้น เช่น eWeLink ของ SONOFF และแชร์ไปยังค่ายอื่นๆ การทำแบบนี้ทำให้เราเข้าถึงการ setting ที่ลงรายละเอียดฟีเจอร์เด็ดๆได้ด้วย
การทำงานกับ Home Assistant ผ่าน Matter
ก่อนที่เราจะมาสรุปเจ้าตัว M5 Matter ก็ขอลองกับ Home Assistant สักหน่อย เราใช้ Home Assistant 2024.5.3 บน iPhone iOS 17.4.1 มาทำการทดลอง ขั้นตอนก็อย่างที่กล่าวมาด้านบน ไปที่ eWelink แอปก่อนแล้วกดปุ่ม Pairing Mode แล้วก็ copy ตัวเลขมาใส่ใน Home Assistant ที่เราลงทะเบียนผ่าน Matter Integration ดูรูปประกอบ
มันก็ตรงไปตรงมาตามหลักการของ Matter ที่ทำให้ Smart Home มันง่ายขึ้น กับอุปกรณ์ที่หลากหลายค่าย ขั้นตอนก็คล้ายๆกัน สำหรับ Home Assistant พอเอา M5 Matter เข้าไปก็จะโผ่ลเป็น Switch เปิดปิดไฟปกติ แค่นั้นจริงๆ ไม่มี Entity อย่างอื่นเลย แต่ก็เป็นไปตามคาด Matter มันสะดวกและง่าย แต่จะเข้าถึงฟีเจอร์เด็ดๆของอุปกรณ์นั้น อย่างเช่นพวก Inching, Power On State ในกรณีของ SONOFF มันจะต้องใช้ eWeLink ในทางกลับกันถ้าเราเอาอุปกรณ์ Matter ของค่ายอื่นๆมาก็จะเป็นในทิศทางเดียวกัน
บทสรุป
SONOFF SwitchMan Smart Wall Switch-M5 (Matter) เป็นผลิตภัณฑ์จาก SONOFF ตัวที่สองที่สนับสนุน Matter โดยรูปลักษณ์ วัสดุ สเปค ฟังก์ชั่นจะเหมือนกับรุ่นพี่ M5 เกือบทุกประการ ทำงานได้ดีในฟังก์ชั่นพื้นฐานและเพิ่มความสามารถ Matter เข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นทางเลือกอีกอันสำหรับคนใช้งานที่ใช้ Smart Home แพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น Apple Home, Google Home, Home Assistant เป็นต้น ถ้าหากนำไปใช้โดยมี eWeLink เป็นแพลตฟอร์มแรกก่อนที่จะแชร์ไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆจะทำให้มันน่าใช้มากขึ้นเพราะได้เข้าถึงฟีเจอร์เด็ดๆได้ เรายังชอบฟีเจอร์พวก PowerOn State รวมไปถึงล่าสุดอย่าง eWeLink Remote Control ที่ใช้ M5 Matter เป็น Gateway จากอุปกรณ์พวกรีโมทบลูทูธเช่น R5 หรือ SMATE
ขอบคุณ ITEAD ที่ส่ง SONOFF SwitchMan Smart Wall Switch-M5 (Matter) มาให้รีวิว อุปกรณ์มีจำหน่ายบนร้านค้าออนไลน์ของบริษัทฯ มีให้เลือกตั้งแต่ 1-3 Gang และ type 120,80,86 ตอนนี้มีสีขาวเท่านั้น รุ่นที่รีวิวนี้ขนาด 3 Gang type 86 ราคา $20.99 (~770฿) และสามารถใช้คูปองโค้ด CNXSOFTSONOFF เพื่อรับส่วนลด 10%
วิศวกรคอมพิวเตอร์สาย Infrastructure ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีทางด้าน IOT เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Smart Home, Smart Farm และยังสนใจในนวตกรรมเกี่ยวกับ Sustainability เช่น Renewable Energy และ Organic Food