เราต่างก็รู้กันดีว่า Cortex-A ของ Arm เป็นคอร์สำหรับการประมวลผลระดับแอปพลิเคชัน (Application Cores), Cortex-M เป็นคอร์ระดับไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller-Class Cores), และ Cortex-R เป็นคอร์สำหรับงานเรียลไทม์ (Real-Time Cores) ซึ่งถูกใช้งานในแอปพลิเคชันหลากหลาย ตั้งแต่อุปกรณ์ IoT ไปจนถึงยานยนต์ หรือแม้แต่สถาปัตยกรรมระบบขนาดใหญ่ แต่สิ่งเหล่านี้อาจกำลังจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เมื่อ Rene Haas, CEO ของ Arm ได้โพสต์ข้อความสั้น ๆ ชื่อว่า “The Arm Evolution: From IP to Platform for the AI Era” แนะนำระบบการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 หมวดหมู่หลัก ได้แก่:
- Arm Neoverse สำหรับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure)
- Arm Niva สำหรับพีซี
- Arm Lumex สำหรับโทรศัพท์มือถือ
- Arm Zena สำหรับยานยนต์ (Automotive)
- Arm Orbis สำหรับ IoT
แม้ในโพสต์จะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แต่เราคาดว่าการตั้งชื่อแบบ Cortex อาจจะถูกยกเลิก เพราะในโพสต์ได้บอกว่า Mali brand จะยังคงถูกใช้เป็นชื่อของ GPU brand ต่อไป, และตัวอย่างของ Neoverse N1, ที่พัฒนามาจาก Cortex-A76 ก็ไม่ได้ใช้ชื่อ Cortex อีกแล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มนี้ได้ดี ดังนั้นเราเข้าใจว่า Arm เพียงแค่ตัดสินใจนำรูปแบบการตั้งชื่อใหม่แบบเดียวกันนี้มาใช้กับทุกสายผลิตภัณฑ์ แม้ว่าจนถึงตอนนี้จะยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บนเว็บไซต์ของ Arm และเมื่อค้นหาคำว่า Lumex บนเว็บไซต์ ก็ไม่พบอะไรเลยนอกจากประกาศข่าวเท่านั้น
Rene ยังเสริมอีกว่า ทางบริษัทกำลังปรับระบบการตั้งหมายเลข IP ให้เรียบง่ายขึ้น โดยจะจัดให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับเจเนอเรชันของแพลตฟอร์ม และใช้ชื่ออย่าง Ultra, Premium, Pro, Nano, และ Pico เพื่อแสดงระดับประสิทธิภาพในแต่ละกลุ่ม ตอนนี้ผมยังไม่เห็นตัวอย่างจริง ๆ แต่ถ้าจะลองสมมุติตามแนวทางใหม่นี้ ตัวอย่างเช่น Arm Cortex-M0+ อาจถูกเรียกว่า Arm Orbis Pico0+ หรืออะไรที่คล้ายกัน ส่วน Cortex-A78AE ก็อาจกลายเป็น Arm Zena Premium 78AE อะไรแบบนั้น
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Arm introduces new product naming architecture for infrastructure, PC, mobile, automotive, and IoT

บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT