รีวิว SONOFF MINI-D (Matter) พร้อมใช้งานร่วมกับ eWeLink, Apple Home และ Home Assistant

Sonoff Mini-D matter review

เราได้รับอุปกรณ์ตัวล่าสุดจาก SONOFF นั่นก็คือ MINI-D หรือ SONOFF Mini Dry WiFi Smart Switch ซึ่งเป็น Wifi รีเลย์สวิตซ์แบบ Dry Contact ขนาด 1 ช่อง หากใครรู้จักรุ่นพี่อย่างรุ่น SONOFF 4CH Pro ซึ่งใหญ่กว่าและมี 4 ช่อง การทำงานก็จะคล้ายๆกันเพียงแต่เล็กกว่าและเพิ่มฟีเจอร์ล่าสุดเข้าไป หลักการของ Dry Contact คือ หน้าสัมผัสหรือหน้าคอนแทคที่จะไม่มีการต่อกับตรงแหล่งจ่ายกำลังไฟฟ้าของวงจรนั้นๆแต่จะแยกไปกับแหล่งจ่ายอื่น ซึ่งต้องนำแหล่งจ่ายไฟฟ้ามาต่อที่หน้าคอนเทคเพื่อจ่ายไฟให้ตรงกับโหลด

MINI-D สามารถนำไปใช้ควบคุมประตูโรงรถ ระบบควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกระแสสูงกว่าผ่านคอนแทคเตอร์ เช่น ปั้มน้ำ หรือ แม้กระทั่งพวกอุปกรณ์ไฟ DC ที่ต้องการไฟไม่เยอะ เช่น โซลินอยด์วาล์ว มอเตอร์ไฟฟ้า (<8w) เนื่องจากไฟป้อน MINI-D และป้อนผ่านรีเลย์สามารถเป็นคนละแหล่งดังนั้นเราสามารถเลือกใช้ได้อย่างอิสระ เช่น ไฟป้อนเป็น 220VAC ขณะที่ไปควบคุมอุปกรณ์โซลินอยด์วาล์วที่ใช้ไฟ 12VDC หรือกลับกันไฟป้อนเป็น 12VDC จากแบตเตอรี่และไปควบคุมอุปกรณ์ 220VAC

นอกจากนี้ MINI-D ยังเป็น Dry Contact Relay ตัวแรกที่สนับสนุนการทำงาน Matter ซึ่งแน่นอนสามารถนำใช้ร่วมกับ Google Home, Apple Home, Home Assistant, Alexa ได้อย่างสบาย เรามาดูในรายละเอียดกัน

แกะกล่อง SONOFF MINI-D

Sonoff Mini-D package

ภายในกล่องเล็กๆซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับตระกูล MINI ทั้งหลาย ประกอบไปด้วยคู่มือฉบับจิ๋วพร้อม QR code สำหรับไว้ติดตั้งใน Matter และตัวเครื่อง MINI-D เอง จากในภาพด้านล่างจะมีทางเลือกในการป้อนไฟทั้ง AC (ช่อง N และ L) และ DC (+ และ -) ซึ่งน่าสนใจเพราะสามารถไปประยุกต์ใช้ในหลายสถานการณ์ เช่น สามารถไปใช้กับแบตเตอรี่ที่ชาร์จด้วยโซลาร์เซลล์มาป้อนก็ได้ หรือ จะใช้ไฟจากการไฟฟ้า (Grid) ส่วนด้านบนมีช่องสามช่องสำหรับใช้เป็น Relay นั่นคือ NO (Normally Open), COM (Common) และ NC (Normally Close) ซึ่งแล้วแต่ว่าเราจะเอาไปใช้ในลักษณะใด โดยส่วนใหญ่จะเป็น NO หมายถึงโดยสภาวะปกติจะไม่มีการเปิดสะพานไฟ (ไฟไม่ไหลไปอีกด้าน) ส่วนช่อง S1 และ S2 จะเป็นช่องที่ต่อกับสวิตซ์ภายนอกเพื่อเป็นทางเลือกที่เพิ่มขึ้นในการควบคุมการปิดเปิดของรีเลย์นอกเหนือจากเปิดปิดผ่านแอป ยกตัวอย่างเช่น เราสามารนำไปต่อกับสวิตซ์ไฟแสงสว่างโดยซ่อนตัว MINI-D ไว้ด้านหลังของสวิตซ์ปกติ

SONOFF Mini Dry WiFi Smart Switch

ในเรื่องการใช้พลังงาน เราได้ทำการทดสอบแบบสั้นๆกับการใช้กระแสของ MINI-D ระหว่างการทำงาน กินกระแสตอนเปิดรีเลย์อยู่ที่ 1.5w และตอนปิดรีเลย์จะอยู่ที่ประมาณ 0.99w โดยประมาณ ทั้งนี้กระแสที่วัดไม่ได้รวมกับกระแสที่ป้อนโหลดผ่านทางรีเลย์
หมายเหตุ: การวัดของเราทำโดยใช้ Smart Plug SONOFF S31

มาแกะดูข้างใน

เราได้เปิดดูด้านในเพื่อดูส่วนประกอบต่างๆดังรูปด้านล่าง หัวใจของ MINI-D ก็คือ ESP32-D0WDR2 ที่เป็น Dual Core MCU – RF System on Chip เท่าที่สัมผัสดูเนื้องานทั้งภายนอกและภายในก็ดูดีและแข็งแรง

Espressif ESP32 D0WDR2 Wireless SoC

เนื่องจากอุปกรณ์นี้สนับสนุน Matter ดังนั้นทาง SONOFF จะไม่อนุญาติให้ทำการแฟลชซอฟแวร์ตัวอื่นๆเข้าไปแทนของเดิม (Security Compliance) ไม่ว่าจะเป็น Tasmota, ESPHome หรืออื่นๆ หากต้องการจริงๆก็สามารถหาซื้ออุปกรณ์ใกล้เคียงแยกแต่ละชิ้น แล้วมาประกอบแทนได้ด้วยราคาที่ใกล้เคียง

Sonoff Mini-D Uncover

สเปคของ SONOFF MINI-D:

  • Wireless SoC – Espressif ESP32-D0WDR2
  • การเชื่อมต่อ – WiFi 2.4GHz
  • อื่นๆ
    • ไฟ LED แสดงสถานะเครือข่าย โหมดจับคู่ และประเภทของสวิตช์
    • ปุ่มกดสำหรับ เปิด/ปิด, โหมดจับคู่ และเลือกประเภทของสวิตช์ภายนอก
  • โหลดสูงสุด
    • โหลดต้านทาน 24V DC/2A หรือ
    • 12V/24V DC สูงสุด 8W
  • กำลังไฟเข้า
    • 100-240V AC 50/60Hz สูงสุด 0.1A หรือ
    • 12-48V DC สูงสุด 1A
  • ขนาด – 43 x 41 x 21.5 มม.
  • น้ำหนัก – 34.5 กรัม
  • วัสดุ – พลาสติก PC
  • ช่วงอุณหภูมิ – -10°C~40°C
  • ความชื้น – 5%~95% RH ไม่ควบแน่น
  • ความสูงในการใช้งาน – ต่ำกว่า 2,000 เมตร
  • การรับรองมาตรฐาน – FCC/CE/RoHS
  • ความปลอดภัย – ตามมาตรฐาน EN 60669-2-1

ทดลองใช้ SONOFF MINI-D

Sonoff Mini-D Test

เราได้นำ MINI-D มาทดลองจริงในสนาม โดยนำมาใช้ควบคุมระบบรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติกลางแจ้ง โดยมี โซลินอยด์วาล์ว, 12VDC แบต LiFePO4 หรือ LFP ที่มีแรงดัน 12VDC เช่นกันมาเป็นแหล่งจ่ายไฟ โดยมี Solar Charger Controller ควบคุมการชาร์จไฟจากแผงโซลาร์ขนาด 18VDC เข้าแบต ทั้งตัว MINI-D และโซลินอยด์วาล์วรับไฟจากแบต LFP เดียวกัน โดย Mini-D ทำหน้าที่เป็นรีเลย์ปล่อยไฟให้กับโซลินอยด์วาล์ว ตัว Mini-D ตามสเปคสามารถทำงานได้ด้วยไฟ DC ตั้งแต่ 12V ถึง 48VDC หรือ จะทำงานโดยเอาไฟจาก AC มาก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม Mini-D ไม่สามารถรับไฟจากสองแหล่งพร้อมกันได้

เราได้ให้ระบบทดลองนี้ทำงานโดยการตั้งเวลาเปิดปิดวาล์วและปั้มรดน้ำเป็นเวลาหลายวัน ทั้งตั้งเวลาและจาก Automation ทั้ง eWelink แอป และ จาก Home Assistant แอป ผลก็คือตัว MINI-D ก็ทำงานได้ตามที่คาดหวัง การใช้งานจริงๆในแบบนี้อาจจะต้องคำนวณเรื่องขนาดแบตเตอรี่เพื่อให้ครอบคลุมในช่วงที่แสงอาทิตย์น้อย

Mini Dry WiFi Smart Switch Test Diagram

เราได้ลองติดตั้งและใช้งาน MINI-D โดยใช้ซอฟแวร์ eWeLink ขั้นตอนก็เหมือนกับอุปกรณ์ Wifi ของ SONOFF ทั่วไป คือให้กดเครื่องหมาย + ด้านบนขวาของหน้าแรกในแอป หลังจากนั้นก็ทำตามขั้นตอนดังรูปด้านล่าง เราก็จะได้ MINI-D มาอยู่ใน eWeLink เรียบร้อย เราสามารถตั้งเวลา ตั้ง Timer หรือ สร้าง Scene เพื่อทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆที่อยู่ภายใต้ eWeLink เช่นเดียวกับอุปกรณ์ SONOFF อื่นๆ

Mini Dry WiFi Smart Switch eWeLink Setup

เราได้ไล่ดูในตัวเลือกต่างๆ พบว่า MINI-D มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเพื่มขึ้นมา ซึ่งเป็นส่ิงที่ไม่มีในรุ่นพี่ 4CH Pro ดังนี้ ดูรูปประกอบด้านล่าง

  • eWeLink Remote Gateway เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ตัว MINI-D เป็นตัว Gateway ที่จะติดต่อกับอุปกรณ์ที่เป็น eWeLink Remote เช่น R5, S-MATE2 เพื่อใช้เป็นรีโมทในการควบคุมโดยผ่านโปรโตคอล Bluetooth ในแบบพิเศษ
  • Power-On State เป็นฟีเจอร์พื้นฐาน แต่มีลูกเล่นมากขึ้นใน MINI-D คือเมื่อมีการจ่ายไฟให้กับตัว MINI-D เช่น หลังจากที่ไฟดับแล้วไฟกลับมา สามารถกำหนดว่าจะเปิดขึ้นมาในแบบไหน (On/Off) หรือ จะเลือกดีเลย์การเปิดเพื่อเหตุผลบางอย่าง เช่น กระแสไฟอาจไม่คงที่หลังไฟกลับมาทันที ให้รอ
  • External Switch เป็นฟีเจอร์ที่นำมาจากพวกตระกูล MINI ที่เอาไว้ต่อกับสวิตซ์แบบธรรมภายนอก เช่น เอาไว้ต่อกับสวิตซ์ไฟแบบเดิมโดยซ่อนอยู่ข้างหลังสวิตซ์ป๊อกแป๊กเดิมๆ หรือจะเอาไปต่อกับสวิตซ์แบบ กริ่ง (Momentary) เป็นต้น
  • Inching Setting เพิ่มการตั้งเวลาการใช้งานหลังจากเปิด (Auto On) โดยปกติรุ่นก่อนหน้านี้มีแค่ตั้งเวลาปิด (Auto Off) ทำให้สะดวกในการนำไปประยุกต์ใช้ในหลายกรณีมากขึ้น

Sonoff Mini-D eWeLink Option

การใช้งานร่วมกับ Apple Home ผ่าน Matter

แน่นอนเราไม่รอช้าที่จะทดสอบ Matter ที่อยู่ใน MINI-D ก่อนอื่นก็นำ MINI-D ไปเพิ่มใน Apple Home ตามขั้นตอนในรูปด้านล่าง หากใช้ eWelink เพิ่ม MINI-D เข้าไปก่อนหน้านี้ เราต้องไปเอา Pairing Code ใน eWeLink มาก่อน แล้วเอามาใส่ในขั้นตอนที่ Apple Home ถาม แต่หากเราแกะกล่องใหม่ๆมาและยังไม่ได้เพิ่มเข้าไปในแพลตฟอร์มไหน เราสามารถสแกน QR code โดยตรงจากด้านหลัง MINI-D หรือ จากสติกเกอร์ที่ติดมากับคู่มือได้เลย

Mini Dry WiFi Smart Switch Matter with Apple Home

หลังจากทำการเพิ่มอุปกรณ์ MINI-D เข้าไปใน Apple Home แล้ว เราก็สามารถตั้งค่าชนิดของอุปกรณ์ตามใจชอบตามรูปด้านล่าง ง่ายๆตามสไตล์ของ Mattter หลังจากนั้นมันก็พร้อมใช้งานใน Apple Home และสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆข้ามค่ายได้เช่นกัน
Mini Dry WiFi Smart Switch with Apple Home

การใช้งานร่วมกับ Home Assistant ผ่าน SONOFF Integration

ถัดมาเราได้ทำการทดลองเพิ่มอุปกรณ์ MINI-D เข้าไปในแพลตฟอร์ม Home Assistant ซึ่งใช้ Home Assistant OS 12.2, Home Assistant Core 2024.12.5 และ AlexxIT Sonoff integration 3.81

ผลที่ได้ก็ตามรูปด้านล่าง Entity ที่ได้ก็จำพวกพื้นฐาน เช่น สวิตซ์ ความแรงสัญญาณ LED ซึ่งแน่นอนมันน้อยกว่าถ้าเทียบกับใช้ใน eWeLink แอปที่เราได้ทดสอบด้านบนไป หลังจากที่เพิ่ม MINI-D เข้าไปแล้ว Entity ที่ได้มาก็สามารถนำไปใช้งานใน Home Assistant เหมือนปกติทั่วไป

Home Assistant SONOFF Integration

การใช้งานร่วมกับ Home Assistant ผ่าน Matter

ถัดมาเราได้ทดลองเอาอุปกรณ์ MINI-D เข้า Home Assistant อีกครั้งแต่ผ่านทาง Matter Integration แทน ปรากฏว่าได้ Entity ของ Power On State มาด้วย มันก็ดีขึ้นนิดหน่อย ตามรูปด้านล่าง

SonoffMini D HomeAssistant Matter2

เปรียบเทียบฟีเจอร์เมื่อ MINI-D ทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆ

แน่นอนอาจจะมีใครถามว่าแล้วจะใช้ MINI-D กับแพลตฟอร์มไหนดีที่สุด ทาง SONOFF ได้ทำตารางเปรียบเทียบด้านล่างให้ดู ชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย eWelink ให้ฟีเจอร์ที่มากกว่า ในความเป็นจริงหากผู้ใช้งานโอเคกับการมีแอปหลายตัวแต่มีตัวนึงเป็นหลัก ก็สามารถใช้ Matter เพื่อเชื่อมการทำงานระหว่างแพลตฟอร์มได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถใช้ eWelink ทำการตั้งค่าเริ่มแรก รวมถึงลูกเล่นต่างๆ หลังจากนั้นให้แชร์ QR code การ pairing ให้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้จะมีการอัพเดตสถานะของอุปกรณ์กันตลอด ทำให้เราได้ใช้ฟีเจอร์เด็ดๆถึงแม้ใช้แพลตฟอร์มอื่นๆได้ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่จุดประสงค์การนำไปใช้งาน

Platform Comparison

บทสรุป

ในที่สุด SONOFF ก็นำ MINI-D ซึ่งเป็น Wifi รีเลย์ แบบ Dry Contact 1 ช่องออกมาสู่ตลาด เราคิดว่า MINI-D เป็นอุปกรณ์ที่มีฟีเจอร์พอตัว มีฟีเจอร์หลากหลายกว่ารุ่นพี่ 4CH Pro (dry contact เหมือนกัน) ด้วยขนาดที่เล็กใกล้เคียงกับตระกูล MINIที่ออกมา มีรีเลย์ 1 ช่องให้งาน สามารถเลือกป้อนไฟได้ทั้ง DC หรือ AC สามารถนำไปควบคุมอุปกรณ์ทั้งแบ DC และ AC มันจึงเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายรูปแบบ และที่สำคัญคือสนับสนุน Matter ทำให้สามารถนำไปใช้ในแพลตฟอร์มอื่นๆเช่น Google Home, Apple Home, Alexa ได้อย่างง่าย

ขอบคุณ ITEAD ที่ส่ง SONOFF MINI-D Dry Contact WiFi Smart Switch มาให้รีวิวในครั้งนี้ อุปกรณ์มีราคา $12.90 (~450฿) บนเว็บไซต์ของบริษัทและคุณสามารถใช้โค้ดคูปอง CNXSOFTSONOFF เพื่อรับส่วนลด 10% ได้

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
โฆษณา