รีวิวอุปกรณ์ Matter ใหม่สองตัวจาก SONOFF – BASIC Gen5 Smart Switch และ Tx Gen2 Smart Wall Switch

 

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch and Tx Gen2 Smart Wall Switch

วันนี้เราจะมารีวิวอุปกรณ์ Matter ใหม่ทีเดียวสองตัวจาก SONOFF กันนั่นคือ Basic Gen5 (Smart Switch) และ Tx Gen2 (Smart Wall Switch) ทั้งสองรุ่นเป็นที่รุ่นที่ปรับปรุงจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ โดยหลักๆเพิ่มการสนับสนุนโปรโตคอล Matter (over Wifi) เข้าไป

Basic Gen5 นั้นเป็นรุ่นที่ห้าของตระกูล Basic ที่นิยมในเรื่องความประหยัด หน้าที่มันคือ Smart Switch ทำงานบน Wifi การเอาไปใช้งานก็หลากหลาย เช่น แสงสว่าง พัดลมขนาดเล็ก ตราบใดๆที่ไม่เกินสเปค (กระแสสูงสุด 10A )สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ (BasicR4) ก็คือเพิ่ม Matter และการทำงานแบบ local control ผ่าน bluetooth เราเคยได้ทำรีวิวรุ่น BasicR4 เมื่อสองปีก่อน

ส่วน Tx Gen2 (T6) เป็นรุ่นที่อัพเกรดมาจาก Tx (T2/T3) รุ่นเดิม ซึ่งนอกจาก Matter ที่เพิ่มเข้ามาแล้วยังมีฟังก์ชั่นอื่นเพิ่มเข้ามา เช่นสามารถปรับแสงของปุ่มได้ เพิ่มฟีเจอร์ Detach Relay เป็นต้น

ทั้งสองรุ่นสนับสนุนการสั่งการผ่านเสียง เช่น Apple Siri, Google Assistant, Amazon Alexa เรามาดูในรายละเอียดแบบเร็วๆกัน

มาแกะกล่องและเปิดดูภายใน Sonoff Basic Gen5

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch Unbox

รูปลักษณ์ภายนอกจะแตกต่างจาก BasicR4 รุ่นก่อน คือการออกแบบให้ดูมินิมอลมากกว่าเดิม เมื่อเอาสติกเกอร์ออกไปจะเห็นตัวอุปกรณ์ขาวโพลนซึ่งมันก็สวยกว่าและดูไม่เทคนิคคอลเหมือนรุ่นเดิม ถ้าจะวางไว้เฉยๆโดยไม่ต้องใส่กล่องหุ้มก็ไม่น่าเกลียด รุ่นนี้ไม่มีปุ่มกดเล็กๆ ดำๆ เหมือนรุ่นก่อน  แต่ถ้าจะกดก็ให้กดไปที่ด้านบนของตัวอุปกรณ์ตรงไหนก็ได้เลย คือเหมือนกับเป็นปุ่มขนาดใหญ่ ดูๆ แล้วก็ออกแบบได้สะดวกในการใช้งาน  กดง่ายไม่ต้องลุ้น

นอกจากนี้ในกล่องจะมีเหล็กแบนเล็กๆมาให้เพื่อไว้เปิดเคสของ Basic Gen5 ซึ่งไม่มีสกรูใดๆ

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch Cover

ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นการนำไปติดตั้งในแบบต่างๆ ที่เราชอบมากคือเอาไปใช้ในแบบ floor switch เนื่องจากปุ่มรับของ Basic Gen5 มันใหญ่ สะดวกต่อการประยุกต์ใช้

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch Casing
3D Printing Enclosure

เมื่อแกะดูภายใน สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปในรุ่น Basic Gen5 คือชิปภายในที่ดูเหมือน SONOFF จะเริ่มใช้ชิปจาก Beken แทนจากรุ่นก่อนๆที่ใช้ ชิป ESP32 จาก Espressif เราคิดว่าอาจเป็นเพราะ Beken 7238 มีการใช้พลังงานที่ดีกว่าและก็ยังมีต้นทุนที่ถูกกว่าแต่เพียงพอกับฟังก์ชั่นหลักในอุปกรณ์ IOT แบบพื้นฐาน เช่น Smart Switch หรือ Smart Wall Switch

สำหรับนัก DIY ถึงแม้เรายังเห็นขา Tx Rx ที่ไว้สำหรับแฟลชซอฟแวร์ตัวอื่นเข้าไปได้ เช่น ESPHome (ซึ่งตอนนี้สนับสนุนชิป Beken แล้ว) แต่เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ Mattter ที่ทาง Sonoff ไม่อนุญาติให้ทำการแฟลชตั้งแต่รุ่นแรกที่สนับสนุน Matter ก็เป็นที่น่าเสียดาย อย่างไรก็ตามหากนัก DIY ต้องการการทำงานแบบ local จริงๆมาตรฐาน Matter ก็ตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้เพราะการทำงานขั้นพื้นฐานของอุปกรณ์นั้นไม่จำเป็นต้องผ่าน cloud แต่อย่างใด

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch Internal
สเปคของ Matter Over WiFi Smart Switch (BASIC-1GS)

  • MCU – BK7238:
  • Rating – 100-240V~ 50/60Hz 10A Max Resistive load
  • Connectivity Wi-Fi IEEE 802.11b/g/n 2.4GHz
  • Net weight – 44.8g
  • Dimension – 80.5×41.5×23.6mm
  • Colour – White
  • Casing material – PC
  • Wiring – T40, copper conductors only, limited to 16AWG to 14AWG SOL/STR
  • Working temperature – -10℃~40℃
  • Working humidity – 5-95%RH, non-condensing

การเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปใน eWelink ซึ่งเป็นแอปมาตรฐานของอุปกรณ์ SONOFF นั้นก็คล้ายอุปกรณ์อื่น โดยกดที่เครื่องหมาย + ด้านขวาบนของหน้าจอแรกใน eWelink แล้วทำตามขั้นตอน เราเคยได้อธิบายไปแล้วเมื่อตอนรีวิว BasicR4 หรือให้ดูรูปประกอบด้านล่างถึงขั้นตอนการติดตั้ง

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch eWelink Setup

จากที่เราทดลองเล่นกับ Basicr5 อยู่พักใหญ่ ถ้าหากเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม(BasicR4) มันก็มีฟังก์ชั่นเกือบครบ ไม่ว่าจะเป็น การตั้งเวลา (schedule), การทำงานแบบ LAN Control (intranet), การตั้ง Alert, การตั้ง Power On State , การทำ Inching ทั้งแบบ Auto-On และ Auto-Off, การทำงานแบบ Magic Switch Mode

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch Function

สิ่งที่ Basic Gen5 มีเพิ่มขึ้นมาคือ การมี Automatic Updates, สนับสนุน Matter และ Local Control ที่ผ่าน Bluetooth

แต่สิ่งที่หายไปใน Basic Gen5 ก็คือ การตั้ง Timer และ Loop Timer หายไป และมันไม่สนับสนุน eWeLink Remote Gateway อีกต่อไป ซึ่งทำให้ไม่สามารถเป็นอุปกรณ์ชนิด gateway สำหรับอุปกรณ์ปลายทางของ eWeLink Remote Gateway เช่น R5 หรือ S-MATE2 ได้

เราได้ทำการทดลองฟีเจอร์ใหม่ใน Basic Gen5 คือ Offline Near-field Control หรือ Local Control ผ่าน Bluetooth โดยมีการจำลองให้ Basic Gen5 ไม่สามารถติดต่อผ่านทาง TCP/IP network ไม่ว่าจะเป็น internet หรือ WIFI intranet แล้วใช้มือถือที่ติดตั้ง eWelink พร้อมเปิด Bluetooth ไว้ พอเอามือถือเข้าไปใกล้ตัว Basic Gen5 ในระยะ 10 เมตรเราก็สังเกตุว่าการติดต่อกับอุปกรณ์กับ eWelink แอปได้กลับมา ตามรูปด้านล่าง(ให้สังเกตุไอคอนเล็กในรูปที่วงไว้ด้วยสีแดง) มันก็เป็นอีกทางเลือกนึงในการควบคุมอุปกรณ์ นอกเหนือจากใช้แอป หรือ การสั่งการด้วยเสียง หรือ การกดปุ่มที่ตัวอุปกรณ์

SONOFF BASIC Gen5 Smart Switch Local Control

Sonoff BasicR5 LocalControlOverBluetooth
Simulation Test: Both internet/intranet failure

การใช้งาน SONOFF Basic Gen5 ร่วมกับ Home Assistant

ถัดมาเราได้ทดสอบการเพิ่ม Basic Gen5 เข้า Home Assistant ซึ่งเป็น Smart Home แนว Opensource ยอดนิยมแบบตรงๆโดยผ่าน Matter Integration ซึ่งวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ eWeLink แอปแต่อย่างใด เราใช้ฮาร์ดแวร์ และ ซอฟท์แวร์ ดังนี้

  • Rasberry Pi4B, 8GB RAM
  • Home Assistant Operating System 15.2
  • Home Assistant Core 2025.10.3

Sonoff BasicR5 HomeAssistant Setup

การเพิ่มอุปกรณ์ทำได้อย่างง่ายตามสไตล์ Matter และจากภาพด้าน เมื่อ Basic Gen5 เข้าไปอยู่ใน Home Assistant จะเห็น entity อยู่ไม่กี่ตัว มี entity เปิดปิด และ Power On State ที่ไม่ครบฟีเจอร์ ซึ่งแน่นอนฟีเจอร์แบบพิเศษจะมีแค่บน eWeLink เท่านั้น ให้ดูตารางเปรียบเทียบด้านล่าง

อย่างไรก็ตามจากที่เราได้เคยรีวิวเรื่อง Matter ของ SONOFF ไปหลายรอบแล้ว การที่จะได้สิ่งที่ดีที่สุดของอุปกรณ์ ก็คือมีฟีเจอร์ครบ เราไม่จำเป็นต้องเลือกแพลตฟอร์มเดียว เนื่องจาก Matter สามารถแชร์อุปกรณ์ไปยังหลายๆแพลตฟอร์มพร้อมกันและอัพเดตสถานะพร้อมกันหมด ทำให้เราสามารถใช้งานแอปหลายตัวพร้อมๆกันได้โดยไม่ต้องเลือก เช่น หากเราชอบ Apple HomeKit ในการใช้งานก็ให้ทำแบบนั้น เพียงแต่อาจจะใช้ eWelink ในบางครั้งคราวเพื่อเข้าไป setup ฟีเจอร์ที่ Apple HomeKit ไม่เห็น เช่น Inching ซึ่งเป็นข้อดีมากๆของ Matter

การแชร์อุปกรณ์ผ่าน Matter จะมีวิธีการเพิ่มขึ้นนิดหน่อย โดยต้องมีการ copy code ไปให้อีกแพลตฟอร์มนึงซึ่งเราได้เคยทำการสาธิตไปกับ SONOFF ที่สนับสนุน Matter ไปก่อนหน้านี้แล้ว ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นถึงฟีเจอร์ใน Basic Gen5 ที่มีบนแพลตฟอร์มต่างๆ

Sonoff BasicR5 Platform Comparison

มาแกะกล่องและเปิดดูภายใน SONOFF Tx Gen2 กัน

Sonoff TxGen2 Unbox

รุ่น Tx Gen2 ณ ตอนที่ออกมาช่วงทำรีวิวมีแค่แบบ 120 (US) เท่านั้น เราคิดว่ารุ่นจัตุรัส (EU/UK) คงทยอยออกตามมาเหมือนกับที่ผ่านมา มีรุ่นให้เลือกคือ 1 ปุ่ม 2 ปุ่ม และ 3 ปุ่ม วัสดุจะผสมระหว่างกระจกนิรภัยและพลาสติกทนไฟ ถ้าเปรียบเทียบกับ Gen ที่แล้ว Tx Gen2 มีกระจกบางลงและเบาขึ้น เมื่อเคาะแต่ก็ยังมีความแข็งแรงตามปกติ และหน้าสัมผัสจะมีขอบให้เห็นชัดว่าควรจะกดตรงไหน นอกจากนั้นเราสามารถหรี่ backlight ที่ปุ่มได้โดยทำจาก eWelink แอป เป็นสิ่งที่ดีเพื่อไม่ให้รบกวนสายตาตอนกลางคืนหากต้องการ ดูรูปด้านล่างประกอบ

Sonoff TxGen2 Backlight
Backlight Brightness Adjustment

ภายใน Tx Gen2 จะเห็นชิปที่เปลี่ยนจาก ESP มาเป็น Beken BK7238 ชัดเจน ซึ่งเหมือนกับ BasicR5 ที่เรารีวิวไปด้านบน ไม่แน่ใจว่า BK7238 จะเป็นมาตรฐานของอุปกรณ์ Matter ของ SONOFF ในผลิตภัณฑ์ตัวต่อๆไปหรือไม่

ถ้าดูจากด้านหลังให้สังเกตุว่า Smart Wall Switch ของ SONOFF จะมีจุดให้น็อตยึดทั้งสี่ทิศซึ่งยืดหยุ่นในการติดตั้งเนื่องจากบล็อคไฟแต่ละบ้าน การติดตั้งของแต่ละช่างอาจมีความต่างกันไป เช่น มีแค่ซ้ายขวา หรือ บางทีเป็นแบบบนกับล่าง

เราได้ทดลองกดปุ่มไปมาอยู่หลายรอบ ความไวในการตอบสนองดีคล้ายๆกับรุ่นที่ผ่าน เสียงรีเลย์ดังเวลาเปิดปิดใกล้เคียงกับรุ่นก่อนเช่นกัน

Sonoff TxGen2 Internal

สเปคของ SONOFF Tx Gen2

  • Models T6-1C-120M, T6-2C-120M, T6-3C-120M
  • MCU – Beken BK7238 32-bit MCU at up to 160 MHz with 288 KB RAM, 2 MB flash (SiP), 2.4 GHz 802.11b/g/n WiFi 4, and Bluetooth LE 5.2
  • Connectivity – Matter over Wi-Fi
  • Rating
    • T6-1C: 100-240V~ 50/60Hz 10A Max (Resistive load)
    • T6-2C: 100-240V~ 50/60Hz 10A Max/gang, Total 16A Max (Resistive load)
    • T6-3C: 100-240V~ 50/60Hz 10A Max/gang, Total 16A Max (Resistive load)
  • LED
    • T6-1C: 150W @ 100V, 300W @ 240V
    • T6-2C: 150W @ 100V/gang, 300W @ 240V/gang, total: 300W @ 100V, 600W @ 240V
    • T6- 3C: 150W@100V/gang, 300W@240V/gang, Total 450W@100V, 900W@240V
  • Diameter of wiring (recommend) – 16AWG to 11AWG SOL/STR copper conductor only
  • Dimensions – 120 x 74 x 37.7mm
  • Weight – T6-1C: 133.3g, T6-2C: 140.7g, T6-3C: 149.5g
  • Casing material – PC+Glass
  • Temperature Range – -10°C to +40°C
  • Humidity – 5-95%RH, non-condensing

ขั้นตอนการเพิ่มอุปกรณ์ Tx Gen2 เข้าไปใน eWeLink ก็เหมือนกับ BasicR5 ที่รีวิวไปข้างต้น ให้ดู screenshot ขั้นตอนตามภาพด้านล่าง

Sonoff TxGen2 eWelink Setup

หลังจากที่ Tx Gen2 เข้ามาอยู่ใน eWelink แล้ว ใน Device Setting ของตัวอุปกรณ์ก็จะเหมือนอุปกรณ์ SONOFF Smart Wall Switch รุ่นอื่นๆ ยกเว้นจะมีตัวตั้งค่า Button Backlight ให้สว่างมากน้อยตามชอบ และ Detach Relay ฟีเจอร์ที่ทำให้เราสามารถเลือกได้ว่าเมื่อมีการกดปุ่มจริงจะอนุญาติให้เปิดปิดหรือไม่ หรือจะใช้แอปอย่างเดียวในการควบคุม

Sonoff TxGen2 Device Setting

สำหรับผู้ใช้หน้าใหม่ๆหรือที่ยังไม่คุ้นเคยกับอุปกรณ์ SONOFF หากใช้แพลตฟอร์ม eWelink กับ Tx Gen2 มันจะมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาถ้าเทียบกับการนำไปใช้ในแพลตฟอร์มอื่น ดังนี้

ฟีเจอร์ Power On State ที่กำหนดได้ว่าหากไฟฟ้าขัดข้องแล้ว ไฟกลับมาให้กำหนดสถานะเริ่มต้นได้ ไม่ว่าจะเป็น On หรือ Off หรือค่าจากคราวที่แล้ว นอกจากนั้นยังสามารถดีเลย์ก่อนที่จะกำหนดสถานะ การนำไปใช้งานก็เช่น Power On State เป็น On แต่ดีเลย์ไว้ 5 วินาทีเพื่อป้องกันไฟกระชากที่เกิดขึ้นได้ช่วงพายุฝนฟ้าคะนอง

ฟีเจอร์ Inching คือการตั้งเวลาเพื่อเปิด หรือ ปิด หลังจาก x วินาที  ยกตัวอย่างการนำไปใช้ก็เช่น หากเราเปิดสวิตซ์แล้ว ไม่ต้องคอยมาปิดสวิตซ์แต่มันจะปิดให้เองหากมีการตั้ง Inching เป็น Auto-Off เป็นเวลา x วินาที กลับกัน Auto-On คือ มันจะคอยเปิดสวิตซ์ให้เองหลังจาก x วินาที การนำไปใช้งานก็เช่น ทำการรีบูท router หากเราตั้งใจกดปิด มันจะเปิดให้หลังจาก x วินาที

ฟีเจอร์ Detach Relay สำหรับในกรณีที่เราต้องการให้การควบคุมทางสวิตซ์จริงไม่สามารทำได้ คือต้องการทำผ่านแอปเท่านั้น

Sonoff TxGen2 KeyFeatures

การใช้งาน SONOFF Tx Gen2 ร่วมกับ Home Assistant

ถัดมาเราได้ลองเอา Tx Gen2 เข้า Home Assistant โดยผ่าน Matter Integration ตรงๆ ขั้นตอนก็เหมือนกันถ้าเทียบกับ BasicR5 ดูตามรูปด้านล่างได้เลย

Sonoff TxGen2 HomeAssistant

เราจะเห็น entity ของตัวสวิตซ์ (รุ่น สามปุ่ม) และ Power On State ที่แค่กำหนด State เท่านั้น ไม่รวมถึงการตั้ง Delay เมื่อเทียบกับที่เห็นใน eWelink  เราคิดว่าอาจจะเป็นมาตรฐาน Matter ที่การกำหนดรายละเอียดฟีเจอร์ยังไม่ได้ลงลึกถ้าเทียบกับแอปของค่ายนั้นเอง ก็ถือว่าเป็นจุดต่างที่ผู้ใช้อาจจะต้องคำนึงถึงเวลาเลือกด้วย

บทสรุป

จากที่ได้มีโอกาสทดลองเล่นกับอุปกรณ์ Matter ใหม่ทั้งสองตัวจาก SONOFF โดยรวมมันทำงานตามมาตรฐาน Matter ได้อย่างลื่นไหล ใช้ง่าย การแชร์อุปกรณ์ไปยัง smart home หลายแพลตฟอร์มพร้อมๆทำได้ปกติตามที่คาดหวังซึ่งเราได้ลองทดสอบ Matter กับทั้ง Apple Home และ Home Assistant พร้อมๆกันอีกด้วย

Basic Gen5 มีการออกภายนอกใหม่ ดูมินิมอลมากขึ้น มีปุ่มใหญ่มากง่ายต่อการกด เพิ่ม Detach Relay และเพิ่มการทำงานแบบ near field control ผ่าน bluetooth นอกจากนั้นยังมีการเปลี่ยนชิปควบคุมภายในใหม่ (Espressif มาเป็น Beken) อาจจะเป็นเหตุผลให้ราคาของ Basic Gen5 ที่มีฟีเจอร์มากกว่ารุ่นก่อนแต่ราคาดันถูกลง น่าสนใจไม่น้อยกับแนวทางของ SONOFF

Tx Gen2 ดำเนินรอยตาม Basic Gen5 ที่ใช้ชิปใหม่ และสนับสนุน Matter เพิ่มฟีเจอร์ปรับแสงที่ปุ่มกด (Backlight) เข้ามาเพื่อปรับแสงหากติดตั้งในห้องนอน มีเพิ่ม Delay Relay เพื่อให้มีความหยืดหยุ่นในการควบคุม คุณภาพวัสดุก็โอเคด้วยกระจกนิรภัยและพลาสติกทนไฟ แต่มีราคาแพงกว่า Tx รุ่นเดิม ก็เป็นทางเลือกสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ Smart Wall Switch แบบสัมผัสและทำงานได้หลายๆแพลตฟอร์มผ่าน Matter

ขอขอบคุณ SONOFF ที่ส่งอุปกรณ์ Matter รุ่นใหม่เหล่านี้มาให้รีวิว อุปกรณ์ Basic Gen5 (BASIC-1GS) สามารถสั่งซื้อได้ในราคาเพียง $5.99 (~200) บน SONOFF store (ยังไม่มีจำหน่ายบน Amazon) ส่วนสวิตช์ TX Gen2 (T6-3C-120M) แบบ 3-ปุ่ม จำหน่ายในราคา $23.90 (~800) บน SONOFF store หรือ Amazon นอกจากนี้ยังสามารถใช้โค้ดส่วนลด “cnxsoft” เพื่อรับส่วนลด 10% สำหรับการสั่งซื้อสินค้าทุกชิ้นบนร้านค้า SONOFF ด้วย

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
โฆษณา