โมดูล ESP32-C3 AWS IoT ExpressLink พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ AWS IoT ในตัว

Amazon และ Espressif ได้เปิดตัวโมดูล wireless อีกตัวหนึ่งที่มีโมดูล ESP32-C3 AWS IoT ExpressLink พร้อมด้วยชุดพัฒนาที่รองรับการเชื่อมต่อบริการ AWS IoT ที่เปิดกล่องแล้วสามารถใช้ได้ทันที หลังจากเมื่อปีที่แล้วได้เปิดตัว โมดูล ESP32-PICO-V3-ZERO Alexa Connect Kit

โมดูล ESP32-C3 AWS IoT ExpressLink หรือที่เรียกว่า “ESP32-C3-MINI-1-N4-A” ใช้สเปค AWS IoT ExpressLink และให้การเชื่อมต่อ AWS IoT Core กับโฮสต์ MCU ผ่านคำสั่ง AT ผ่านอินเทอร์เฟซ UART โมดูลที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าและตั้งโปรแกรมล่วงหน้าได้อย่างง่ายดายการรวมโมดูลรองรับการกำหนดค่า WiFi, การส่งข้อความ, OTA และการจัดการอุปกรณ์

โมดูล ESP32-C3 ขนาดกะทัดรัด (16.6 x 13.2 มม.) ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบอร์ดพัฒนา ESP32-C3-AWS-ExpressLink-DevKit ตามรูปแบบบอร์ด Arduino Zero ทำให้สามารถเสียบเข้ากับบอร์ด Arduino หรือเชื่อมต่อได้ค่อนข้างง่าย ไปยังระบบโฮสต์อื่น ๆ เช่น Raspberry Pi, เป้าหมายคือทำให้การปรับใช้โซลูชัน IoT ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องให้นักพัฒนาดูแลรักษาเฟิร์มแวร์ที่ซับซ้อน และนำเสนอการรักษาความปลอดภัยแบบ end-to-end และการจัดการฟลีตที่พร้อมใช้งาน

• โมดูล Wireless ESP32-C3-MINI-1-N4-A (อิงตาม ESP32-C3-MINI-1),  ESP32-C3FN4 Wi-Fi และโมดูล Bluetooth LE Combo พร้อมแฟลช 4MB, เสาอากาศ PCB แต่ตั้งโปรแกรมด้วยเฟิร์มแวร์ที่กำหนดเอง
• USB – พอร์ต Micro USB สำหรับจ่ายไฟและตั้งโปรแกรม
• ขั้วต่อขยายเข้ากันได้กับ Arduino Zero พร้อมตัวเปลี่ยนระดับ 1.8V ถึง 5V
• การดีบัก – ตัวเชื่อมต่อ JTAG เข้ากันได้กับบอร์ดดีบัก ESP-PROG
• อื่นๆ – LED เพาเวอร์, สวิตช์เปิดปิด, ปุ่มรีเซ็ต, RGB LED
• แหล่งจ่ายไฟ – 5V DC input plus 5V to 3.3 V

ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ Amazon IoT ExpressLink แต่มาดูคุณสมบัติหลักที่ Amazon นำเสนอ :

• การเชื่อมต่อบนคลาวด์ – โซลูชันนี้ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับคลาวด์ได้โดยตรงและปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะทาง
• การผสานรวมกับบริการ AWS IoT ผ่าน:
  • การส่งข้อความ AWS IoT Core – การเชื่อมต่อแบบสองทางกับ AWS IoT Core ผ่านการสนับสนุนดั้งเดิมของกลไกการสื่อสาร MQTT (เผยแพร่/สมัครรับข้อมูล)
  • AWS IoT Device Shadow –ช่วยให้คุณสามารถสร้างเวอร์ชันเสมือนที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องหรือ Device Shadow ของอุปกรณ์แต่ละเครื่องซึ่งมีสถานะล่าสุดของอุปกรณ์เพื่อให้แอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์อื่นสามารถอ่านข้อความและโต้ตอบกับอุปกรณ์นั้นได้ ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นจะเชื่อมต่ออยู่หรือไม่ก็ตาม
  • รองรับบริการของ AWS กว่า 200 รายการ รวมถึงบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ (Amazon Simple Storage Service [S3]), บริการประมวลผล (Amazon Elastic Compute Cloud [EC2]) สำหรับการประมวลผลข้อมูลเซ็นเซอร์ของลูกค้า การวิเคราะห์ (AWS IoT SiteWise) รวมถึง AI และ ML การสร้างแบบจำลองและการวิเคราะห์ (Amazon SageMaker)
• ความปลอดภัย
  • รวมรากของความน่าเชื่อถือของฮาร์ดแวร์ที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อเปิดใช้งานการพิสูจน์ตัวตนอุปกรณ์และบัญชีที่ปลอดภัย
  • AWS IoT Device Defender “บริการที่มีการจัดการเต็มรูปแบบซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับกลุ่มอุปกรณ์ด้วยการตรวจสอบการกำหนดค่า IoT อย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบความผิดปกติและการเบี่ยงเบนจากแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ดีที่สุด”
• การจัดการกลุ่มอุปกรณ์พร้อมการอัปเดต OTA (over-the-air) และการตรวจสอบสภาพกลุ่มอุปกรณ์ผ่านคอนโซล AWS IoT Device Management และ Device Defender

Amazon กล่าวว่าเวลาในการพัฒนาสามารถลดลงจากปีเป็นสัปดาห์ ฉันมีความรู้สึกว่าสิ่งนี้อาจเป็นจริงสำหรับนักพัฒนาที่ไม่คุ้นเคยกับการพัฒนาซอฟต์แวร์แบบฝังตัว และใครที่ได้เรียนรู้วิธีใช้ AWS IoT ExpressLink แล้ว เพราะหากคุณถามฉันว่าข้อเสนอของ Amazon ส่วนใหญ่มักจะค่อนข้างสับสน (สำหรับฉัน) และฉันคิดว่ามีช่วงการเรียนรู้ที่ไม่สำคัญ

คุณอาจพบรายละเอียดเพิ่มเติมในหน้าผลิตภัณฑ์ในเว็บไซต์ Amazon และ Espressif Systems ที่จะมาพร้อมกับคู่มือผู้ใช้และแผนผัง ฉันไม่พบลิงก์สำหรับซื้อชุดนักพัฒนาออนไลน์ แต่ซื้อผ่านทีมขายของ Espressif

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : ESP32-C3 AWS IoT ExpressLink module & devkit aim to ease connection to AWS IoT services