รีวิว BP Doctor PRO : 2-in-1 สมาร์ทวอทช์ และเครื่องวัดความดัน

ถ้าฉันต้องการตรวจความดันโลหิตและสุขภาพร่างกาย ฉันจะต้องใช้เครื่องวัดความดันแบบบลูทูธ (Koogeek BP2) กับ fitness tracker (สายวัดอัจฉริยะ)/สมาร์ทวอทช์ (นาฬิกาอัจฉริยะ) เช่น  Weloop Key S3

บลูทูธ-ความดันโลหิต-จอภาพ-smartwatch

มันสามารถทำได้, แต่ WearWiz ได้คิดค้นบางสิ่งที่มีขนาดเล็กยิ่งขึ้นด้วย BP Doctor Pro 2-in-1 ที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง นาฬิกาอัจฉริยะ/สายวัดอัจฉริยะ และเครื่องวัดความดันโลหิต ราคา $299 (~10,500฿) มีราคาถูกกว่า Omron Heartguide ที่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก FDA มีราคา $500(~17,700฿)

YHE-BP-Doctor-Pro-2-in-1-smartwatch-เครื่องวัดความดันโลหิต

บริษัท WearWiz ได้ส่งตัวอย่าง BP Doctor PRO ให้ CNX Software เพื่อทดสอบ ดังนั้นเราจะมาดูนาฬิกาอัจฉริยะ และอุปกรณ์เสริม, แอพ Android และคุณสมบัติต่างๆ เช่น กาวัดความดันโลหิต, อัตราการเต้นของหัวใจ, การวัดค่าออกซิเจนในเลือด และอื่นๆ บทความค่อนข้างยาว ดังนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ส่วนดังนี้:

  1. ตรวจวัดความดันโลหิตด้วยสมาร์ทวอทช์ BP Doctor PRO

  2. สรุปข้อดีและข้อเสีย

แกะกล่อง BP Doctor PRO

BP Doctor PRO มากับแพ็คเกจกล่องกระดาษสีดำที่มีโลโก้และข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับนาฬิกา Y001S

แพ็คเกจ-นาฬิกา-YHE

แต่สิ่งที่สำคัญคือสิ่งที่อยู่ข้างใน

YHE-BP-Doctor-Pro-สมาร์ทวอทช์-แกะกล่อง

ประกอบไปด้วย สมาร์ทวอทช์, แท่นชาร์จพร้อมสายไมโคร USB, เทปวัด, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

BP-Doctor-Pro-smartwatch-charging-dock-user-manual

มีสายคาด air cuff อยู่กับสายรัดข้อมือเพื่อวัดความดัน, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (HRM) และ 4 ตุ่มเพื่อเชื่อมต่อกับแท่นชาร์จ

Inflatable-band-blood-pressure-monitor-HRM-charging-pads

ข้อมูลสเปคของ BP Doctor PRO

นี่คือข้อที่ระบุไว้ในคู่มือผู้ใช้:

  • MCU – ไมโครคอนโทรลเลอร์ MediaTek @ 208 MHz อาจเป็น ไมโครคอนโทรลเลอร์ MT2523D Cortex-M4
  • หน่วยความจำ – “256M” นั่นอาจหมายถึงหน่วยความจำแฟลช 256Mbit
  • หน้าจอแสดงผล – หน้าจอสัมผัส AMOLED ขนาด 1.41 นิ้ว ความละเอียด 360×320
  • การเชื่อมต่อไร้สาย – Bluetooth LE 4.2
  • เซ็นเซอร์ – เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ PPG, เซ็นเซอร์ความเร่ง 3 แกน, เซ็นเซอร์ไจโรสโคป และเซ็นเซอร์ความดัน
  • แบตเตอรี่ – แบตเตอรี่ลิเธียม 170 mAh
  • ขนาด – 54 x 35 x 12.9 มม. (ตัวเครื่องสแตนเลสเกรดทางการแพทย์)
  • น้ำหนัก – 80 กรัม

ฉันไม่พบข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับการกันน้ำ ดังนั้นฉันจึงถาม และฉันได้รับแจ้งว่าในขณะที่นาฬิกาได้รับการจัดอันดับ IPX6 แต่สายนาฬิกา air cuff ไม่สามารถเปียกได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้เป็นนาฬิกากันน้ำได้ นาฬิกาผ่านการทดสอบมาตรฐาน CE แต่ไม่ได้รับการรับรองคุณภาพจาก FDA ถ้าสิ่งหลังสำคัญสำหรับคุณ ผลิตภัณฑ์รุ่นที่สอง BP Doctor MED กำลังอยู่ในขั้นตอนขอใบรับรองจาก FDA

การติดตั้งเบื้องต้น

เมื่อฉันได้รับนาฬิกา มีการชาร์จมาแล้ว 80% คุณอาจต้องการชาร์จก่อนใช้งาน แต่ฉันไม่ได้ทำ…

BP-Doctor-PRO-ชาร์จ

การกดปุ่มเล็กๆ (ปุ่มเปิด/ปิด) จะเป็นการเปิดนาฬิกาเพื่อจะเข้าสู่โหมด “การจับคู่บลูทูธ” และเราจะได้รับแจ้งให้ติดตั้งแอป “BP Doctor”

YHE-BP-Watch-Bluetooth-Pairing

ดังนั้นฉันจึงโหลด แอพ Bp Doctor Plus จาก Google Play Store

Bp-Doctor-Plus-app

หลังจากยอมรับข้อตกลงผู้ใช้และนโยบายความเป็นส่วนตัว ให้คุณเลือกลงทะเบียนบัญชีด้วยอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์ ฉันเลือกทะเบียนด้วยอีเมล และได้รับอีเมลยืนยันพร้อมรหัส

Bp-Doctor-Plus-โปรไฟล์-รายละเอียด

ในขั้นตอนต่อไป คุณจะต้องป้อนข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้อง ข้อมูลต่างๆ เช่น ส่วนสูง น้ำหนัก เพศ ฯลฯ แนะนำให้ใส่ข้อมูลจริงไปได้เลย   เมื่อเสร็จแล้วสามารถเริ่มกระบวนการจับคู่ผ่านบลูทูธได้

BP-Doctor-Pro-สมาร์ทวอทช์ -บลูทูธ-จับคู่

สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น ตามที่คุณเห็นจากภาพหน้าจอ ใช้เวลาเพียง 2 ถึง 3 นาทีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ และฉัน screenshots จึงช้ากว่าผู้ใช้ทั่วไป

BP-Doctor-Pro-หน้าปัดนาฬิกา

 

ตอนนี้เราสามารถดูหน้าปัดเริ่มต้นบนสมาร์ตวอทช์ได้แล้ว และครั้งแรกที่เห็นฉันรู้สึก WOW! มันดูดีมาก! หน้าจอ AMOLED นั้นคมชัดด้วยสีสันสดใสและดูดีกว่า e-paper  มีข้อเสียอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นหน้าจอ AMOLED ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานแบตเตอรี่จะหมดไว จึงไม่สามารถเปิดทิ้งไว้ได้ตลอดเวลา ดังนั้นโดยค่าเริ่มต้น หน้าจอจะปิดลงหลังจาก 5 วินาที และคุณจะต้องกดปุ่มโฮมหรือปุ่มเปิด/ปิดทุกครั้งที่ต้องการจะดูนาฬิกาของคุณ หรืออย่างที่ฉันทำ ให้เปิดใช้งานฟังก์ชันยกแขนเพื่อเปิดหน้าจอ การอ่านมองไม่เห็นหน้าจอเมื่ออยู่ในแสงจ้า แม้ว่าจะเลือกความสว่างสูงสุดไว้ก็ตาม

การทำงานของหน้าจอ

วางโทรศัพท์ไว้ด้านข้างสักครู่แล้วตรวจสอบอินเทอร์เฟซของนาฬิกา

BP-Doctor-Pro-smartwatch-user-interface

เราสามารถเข้าถึงหน้าจอคุณสมบัติหลักของนาฬิกาได้อย่างรวดเร็วโดยการปัดไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเข้าถึงข้อมูลกิจกรรมประจำวันของคุณ (ระยะทาง, แคลอรีที่เผาผลาญ และจำนวนก้าว) การวัดความดันโลหิตล่าสุด, ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ และเปอร์เซ็นต์ Sp02 หรือค่าออกซิเจนในเลือด

BP-Doctor-PRO-เมนู-สมาร์ทวอร์ช

หากต้องการใช้ฟังก์ชันเพิ่มเติม คุณจะต้องกดปุ่มโฮม เพื่อเรียกใช้เมนูตัวเลือกหลายรายการ มาดูตัวเลือกแต่ละอันกัน

blood-pressure-monitor-guest-mode

BP เป็นฟังก์ชั่นการวัดความดันโลหิตด้วยโหมดมาตรฐานที่จะซิงโครไนซ์กับแอพมือถือเพื่อเก็บประวัติการวัดและโหมด Guest ในกรณีที่คุณต้องการตรวจวัดจากเพื่อนหรือครอบครัว และไม่เลอะเทอะกับข้อมูลของคุณเอง ฉันจะไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของความดันโลหิตในส่วนอื่นด้านล่าง

smartwatch-SpO2

SpO2 หรือค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดปกติค่าของระดับออกซิเจนในเลือดจะอยู่ที่ 95–100%  ข้อมูลนี้ยังช่วยตรวจผู้ที่มีความเสี่ยงของภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับได้ และผู้ป่วยโควิด-19 ระดับออกซิเจนในเลือดจะต่ำกว่า 90% ซึ่งวัดได้ง่ายมากเพียงเข้าสู่เมนูแล้วรอสองสามวินาที แต่ฉันไม่พบผู้ที่เป็นโควิด-19 ระหว่างการตรวจสอบนี้ สำหรับฉันระดับออกซิเจนในเลือดจะอยู่ที่  98% แปลว่าในขณะนี้ฉันมีสุขภาพดี และฉันพยายามกลั้นหายใจเป็นเวลา 30 วินาทีก่อนทำการวัดค่า แต่ก็ได้ผลลัพธ์เช่นเดียวกัน ฉันไม่รู้ทดสอบอย่างไร กับภาวะหยุดหายใจขณะหลับและฉันคิดว่าถ้าเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ นาฬิกาจะสั่น

heart-rate-monitor-automatic-mode

ฟังก์ชัน HR เป็นการตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจทำงานได้ตามที่คาดไว้ และไม่ต้องทริกเกอร์มันด้วยตนเองในระหว่างการใช้งานปกติ เราสามารถเปิดใช้งานการวัดอัตโนมัติ (Auto MEAS) เพื่อให้ทำการวัดโดยอัตโนมัติทุกสองสามนาทีและซิงโครไนซ์ข้อมูลกับแอป

สมาร์ทวอร์ช-โหมด-การวิ่ง-การเดิน

ฟังก์ชัน Workout เป็นการออกกำลังกายมีสามตัวเลือก: การเดินกลางแจ้ง (Outdoor Walking), การวิ่งในร่ม (Indoor Running) และการวิ่งกลางแจ้ง (Outdoor Running) ฉันทดลองทั้งการเดินกลางแจ้งและการวิ่งกลางแจ้ง และมันได้ผลเหมือนกัน ดังนั้นมันจึงต้องคำนวณความยาวของก้าวที่แตกต่างกัน

BP-Doctor-Pro-การวิ่ง-กลางแจ้ง

คุณจะเห็นเวลา, ระยะทางและก้าวโดยประมาณเนื่องจากไม่มี GPS และอัตราการเต้นของหัวใจที่วัดได้ โปรดทราบว่าฟังก์ชัน “raise to wake หรือ ยกขึ้นเพื่อปลุก” (คือฟังก์ชัน เพียงคุณยกหรือเอียงนาฬฺกาขึ้นหน้าจอจะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ) แต่ในขณะวิ่งจะไม่สามารถทำงาน ดังนั้นคุณจะต้องกดปุ่มโฮมเพื่อตรวจสอบ หรือเปลี่ยนการตั้งค่าการแสดงผลเป็น “Always On หรือ เปิดตลอดเวลา” หากคุณกดปุ่มโฮมสองครั้ง เครื่องจะหยุดการทำงาน และ “double-clicking” มันบังเอิญเกิดขึ้นกับฉันขณะวิ่ง

นาฬิกาปลุก-แคลอรี่-การนอน-สภาพอากาศ

หากเราเลื่อนลงมา จะมีตัวเลือกเพิ่มเติม

BP-Doctor-Pro-นาฬิกาปลุก

Alarm หรือนาฬิกาปลุก ไม่เพียงแต่ใช้งานเพื่อปลุกเท่านั้น แต่ยังใช้สำหรับเตือนเวลากินยาได้อีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นเครื่องเตือนใจที่จะบอกให้ผู้ป่วยกินยาตรงเวลา เมื่อนาฬิกาปลุกทำงาน นาฬิกาจะสั่นเตือน พร้อมแสดงเวลาและเหตุผลในการปลุก (การปลุก, ยา ฯลฯ…) โปรดทราบว่ามอเตอร์สั่นไม่แรงมาก ดังนั้นฟังก์ชันปลุกอาจใช้ไม่ได้สำหรับทุกคน…

คำนวณ-เผาผลาญ-แคลอรี่

ฟังก์ชัน calorie หรือ แคลอรี่จะแสดงการเผาผลาญแคลอรี่โดยประมาณสำหรับ BMR (basal metabolic rate หรือ ค่าเผาผลาญพลังงานขั้นต่ำต่อวัน) ตลอดจนกิจกรรมการออกกำลังกายและการเดิน

BP-Doctor-Pro-การนอนหลับ

โหมด Sleep หากคุณไม่สวมนาฬิกาขณะนอนหลับ คุณจะเห็น “ไม่มีบันทึกการนอนหลับ” แต่หากทำ นาฬิกาจะตรวจสอบสถานะการนอนหลับของคุณโดยอัตโนมัติ คะแนนคุณภาพการนอนหลับดีเพียงใด จะแยกเป็นช่วงเวลา หลับตื้น, หลับลึก และตื่น

ข้อมูล-สภาพอากาศ

ฟังก์ชัน Weather หรือ สภาพอากาศ ทำงานโดยอัตโนมัติ และฉันไม่ต้องตั้งค่าใดๆ เลย หากเราเลื่อนลงมาอีกครั้งในเมนู เราจะเห็นไอคอน HRV และการตั้งค่า

HRV-สมาร์ทวอร์ช

HRV (Heart Rate Variability หรือ อัตราการผันแปรของการเต้นของหัวใจ)  จะวัดในเวลากลางคืน ดังนั้นหากคุณไม่ใส่นาฬิกาขณะนอนหลับ คุณจะเห็นแผนภูมิสีดำ (ภาพบนด้านซ้าย), แต่ถ้าใส่นาฬิกา คุณจะเห็นแผนภาพข้อมูลที่มีจุดสีแดง (ภาพบนด้านขวา) จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในแอป การวัด HRV สามารถช่วยระบุความผิดปกติ และ HRV ที่ลดลงนั้นสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเสียชีวิต ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และหัวใจวาย ในขณะที่ HRV ที่สูงขึ้นอาจบ่งบอกถึงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะตามที่อธิบายไว้ในบทความบน Health.com

BP-Doctor-Plus-ตั้งค่า

ส่วนการ Settings หรือการตั้งค่า มีตัวเลือกบางอย่างในการแสดงผลหน้าจอ, การเปิดใช้งานการแจ้งเตือน, การเลือกภาษาและUnit และการรีเซ็ตนาฬิกาเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน

สมาร์ทวอร์ช-ตั้งค่า-หน้าจอ

Display คุณสามารถตั้งเวลาหน้าจอได้ตั้งแต่ 5 ถึง 20 วินาที} ปรับความสว่าง, ตั้งค่า always on คือหน้าจอเปิดตลอดเวลา (ไม่แนะนำเนื่องจากจะเปลืองแบตเตอรี่มาก), raise to wake คือ ยกขึ้นเพื่อปลุก เพียงคุณยกหรือเอียงนาฬฺกาขึ้นหน้าจอจะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติ (นั่นคือตัวเลือกที่ฉันต้องการ) และเปลี่ยนรูปแบบหน้าปัดนาฬิกา

Change-dial-BP-Doctor-PRO

จากรูปข้างบน เป็นหน้าปัดนาฬิกาที่ได้รับการติดตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่คุณยังสามารถเลือกบางส่วนจากแอป และดาวน์โหลดไปยังแอปได้

apnea-alert-move-it-alert

Alert มีการแจ้งเตือนสองแบบ คือ Apnea alert หรือ การแจ้งเตือนภาวะหยุดหายใจ จะเกิดขึ้นหากคุณมีอาการหยุดหายใจขณะหลับ และ Move it หรือการเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นหากคุณนั่งบนเก้าอี้นานเกินไป เช่นเดียวกับนาฬิกาปลุก นาฬิกาจะสั่นและแสดงเหตุผลด้วยภาพสำหรับการแจ้งเตือน

BP-Doctor-PRO-ภาษา

นาฬิกาจะรองรับได้ 5 ภาษา คือ จีนตัวย่อ, จีนตัวเต็ม, อังกฤษ, ญี่ปุ่น และสเปน ภาษาชุดย่อยนี้อาจส่งผลต่อความสามารถในการอ่านข้อความจากสมาร์ทโฟนของคุณ (เช่น SMS, Facebook Messenger, LINE, Whatsapp…) ในภาษาที่ไม่รองรับ ตัวอย่างเช่น นาฬิกาจะไม่สามารถแสดงข้อความที่เขียนเป็นภาษาไทยได้

ฟังก์ชัน Unit ช่วยให้คุณเลือกได้ว่าจะให้แสดงระยะทางเป็นกิโลเมตรหรือไมล์ และอุณหภูมิเป็นเซลเซียสหรือฟาเรนไฮต์ การรีเซ็ตจะลบข้อมูลทั้งหมด และคืนค่านาฬิกากลับเป็นการตั้งค่าจากโรงงาน

การตรวจวัดความดันโลหิตด้วยสมาร์ทวอทช์ BP Doctor PRO

มาดูฟังก์ชั่นวัดความดันโลหิตกันดีกว่า แต่ก่อนหน้านั้น ฉันวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องวัดความดันโลหิต Koogeek BP2 ที่ใช้ผ้าพันแขนแบบเป่าลมแบบดั้งเดิม

วัด-แขน-ข้อมือ-ความดันโลหิต

ค่า SYS/DIA เท่ากับ 104/55 และอัตราการเต้นของหัวใจเท่ากับ 61 ครั้งต่อนาที

ขั้นตอนแรกก่อนใช้สมาร์ทวอช BP Doctor PRO ในการวัดความดันโลหิตคือการใช้เทปวัดโดยวางข้อแขนโดยห่างจากฐานฝ่ามือประมาณ 2 นิ้ว เพื่อตรวจสอบรูที่คุณควรใช้บนสายรัดข้อมือ

เทปวัด-ความดันโลหิต

ในกรณีของฉัน ฉันต้องเลือกหลุมที่ 7 ก่อนเริ่มการวัด นาฬิกาควรอยู่ห่างจากฝ่ามือประมาณ 2 นิ้วและรู้สึกว่าพอดีข้อมือของคุณ การวางนาฬิกาไว้ที่ระดับหัวใจเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้นคุณสามารถวางแขนแนบกับหน้าอกหรือบนกล่อง เช่น กล่องของนาฬิกาขณะนั่งอยู่ที่โต๊ะ และการผ่อนคลายระหว่างการตรวจวัดก็สำคัญเช่นกัน และต้องแน่ใจว่าคุณไม่ได้ออกกำลังกายหรือดื่มกาแฟ/เครื่องดื่มชูกำลังอย่างน้อย 30 นาทีก่อนการวัด, ห้ามพูดหรือขยับตัวระหว่างการวัดเช่นกัน

มีสองวิธีในการเริ่มการวัดความดัน โดยผ่านเมนู หรือโดยการกดปุ่มโฮมเป็นเวลาสองวินาที ซึ่งในกรณีนี้ การวัดจะเริ่มโดยอัตโนมัติ

BP-Doctor-Pro-สมาร์ทวอร์ช-วัดความดันโลหิต

สาย air cuff ค่อยๆ พองออกโดยรู้สึกแน่นและแน่นขึ้นรอบๆ ข้อมือของคุณ โดยที่หมายเลข SYS จะเพิ่มขึ้น และเมื่อการวัดเสร็จสิ้น ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 30 วินาที คุณจะได้ตัวเลข SYS/DIA ในหน่วย mmHg  ฉันวัดค่าได้ 110/68 mmHg และ 65 bpm ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเลข 104/55 mmHg และ 61 bpm ที่ฉันได้รับจาก BP2 ในแง่ความรู้สึกผลลัพธ์ทั้งสองยังคงอยู่ในโซนปลอดภัย

ฉันยังถ่ายวิดีโอสั้น ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการคำอธิบายด้วยภาพมากกว่า

YouTube video player

อัปเดต : การวัดครั้งแรกของฉันล้มเหลว เนื่องจากฉันวางนาฬิกาผิดคือ วางไว้บนกล่องแล้วกดสตาร์ท ซึ่งมีผลต่อการวัด ที่จริงแล้วหน้าปัดนาฬิกาควรอยู่ด้านบนของกล่อง และนาฬิกาควรอยู่ใน “กลางอากาศ” ตามที่แสดงในภาพประกอบด้านล่าง

วิธี-วัด-ความดันโลหิต

แอพ BP Doctor Plus สำหรับ Android

แม้ว่าจะสามารถใช้นาฬิกาได้โดยไม่ต้องใช้แอป แต่หลังจากการตั้งค่าเริ่มต้นใน BP Doctor Plus คุณจะได้รับการวิเคราะห์และประวัติสุขภาพส่วนบุคคล

BP-Doctor-Plus-สุขภาพ-วันนี้

หน้าหลักของแอป BP Doctor Plus มีข้อมูลทั้งหมดสำหรับวันปัจจุบันในหน้าเดียวที่มีข้อมูลBP หรือการวัดความดันโลหิต, SpO2 หรือการวัดค่าออกซิเจนในเลือด, HRV หรืออัตราการเต้นของหัวใจ , น้ำหนัก, ข้อมูลการออกกำลังกาย, การนับก้าว, แคลอรีที่เผาผลาญ, และการนอนหลับ สำหรับเมตริกบางรายการ คุณยังระบุได้ด้วยว่ามีปัญหาหรือไม่ ตัวอย่างเช่น ในขณะที่ข้อมูล HRV อัตราการเต้นของหัวใจของฉันดูดี (โซนสีเขียว) น้ำหนักของฉันค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับส่วนสูงของฉัน และคะแนน BMI ของฉันทำให้ฉันมีน้ำหนักเกินเล็กน้อย

ประวัติ-ความดันโลหิต

หากเป็นหน้า BP คุณจะเข้าสู่ประวัติซึ่งคุณสามารถดูประวัติตามวัน เดือน และปี และดูว่าผลลัพธ์เป็นปกติหรือไม่ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฉันมีสองผลลัพธ์ที่สูงเล็กน้อย ค่าวัดแรกเน้นว่า “ไม่ใช่ฉัน” เป็นค่าการวัดของผู้หญิงอ้วนที่เป็นเพื่อนของแฟนฉัน ค่าจึงออกมาสูง และฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขาปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างถูกต้องหรือไม่ (เช่น ดูระดับหัวใจ) ที่จริงควรใช้ “guest mode” จากนาฬิกาในกรณีนั้นเพื่อไม่ให้ข้อมูลเลอะเทอะ ค่าวัดที่สองที่เน้นว่าคือ “ฉัน” เป็นการวัดหลังจากถือกระเป๋าเดินทางและกล่องสักสองสามนาที ฉันไม่คิดไม่เป็นการออกกำลังกาย แต่การวัดได้จบลงที่ 126/80 mmHg และ 64 bpm และมีคุณสมบัติเป็น (ความดันโลหิตสูง) “ระยะที่ 1” แต่เมื่อวัดครั้งต่อไปก็ไม่เป็นแบบนี้อีก

SpO2-ประวัติ

ประวัติ SpO2 หรือการวัดค่าออกซิเจนในเลือด สำหรับฉันแล้วมันไม่น่าสนใจ เนื่องจากฉันได้ 98% ทุกวัน

วัด-อัตราการเต้นของหัวใจ-อย่างต่อเนื่อง

หน้าที่แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ จะแสดงอัตราการเต้นของหัวใจต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง โดยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่การออกกำลังกาย และมีค่าเป็น 0 หากถอดนาฬิกาออก เพื่อชาร์จนาฬิกาหรืออาบน้ำ

การวัด-HRV

การวัดค่า HRV หรืออัตราการเส้นของหัวเริ่มในเวลากลางคืนประมาณ 00:40 น. และใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง แอปพลิเคชันถือว่าค่าที่สูงกว่า 60 เป็นเรื่องปกติ และถ้าต่ำกว่า 40 จะเป็นค่าผิดปกติ นอกจากนี้ยังนำเสนอแผนภาพการกระจาย Lorenz  (Scatter Plot) ที่สามารถบ่งบอกถึงเงื่อนไขพิเศษ แผนภาพรูปดาวหางถือเป็นเรื่องปกติ, แผนภาพเป็นรูปจรวดอาจบ่งบอกถึงการกรนหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และรูปร่างอื่นๆ อาจบ่งบอกถึงสภาวะที่ร้ายแรงกว่า แตะที่พล็อตเฉพาะจะเสนอรายละเอียดเพิ่มเติม

ประวัติ-น้ำหนัก

Weight มีประโยชน์หากคุณจะลดน้ำหนักและอัปเดตบันทึกทุกวัน แต่ฉันยังไม่ได้ทำเพียงแค่อัปเดตสองครั้งเท่านั้น

Bp-Doctor-Plus-การออกกำลังกาย

Workout หรือ การออกกำลังกายช่วยให้ติดตามกิจกรรมการออกกำลังกายของคุณทุกวันด้วยระยะเวลา, จำนวนก้าว, ก้าวเฉลี่ย, แคลอรีที่เผาผลาญ และอัตราการเต้นของหัวใจโดยเฉลี่ย เนื่องจากไม่มี GPS ในนาฬิกา คุณจะไม่ได้รับแผนที่การวิ่งหรือเดินของคุณเหมือนกับสมาร์ทวอทช์อื่นๆ นอกจากนี้ยังหมายถึงระยะทางที่ไม่แม่นยำด้วย จากการวิ่งกลางแจ้ง outdoor running แสดงระยะทาง 2.57 กม. แต่ที่จริงแล้ว 3 กม.

Nike-Plus-Running-กับ-Bp-Doctor-Plus

แต่ระยะทางจะอยู่ในช่วงที่ยอมรับได้ ใกล้เคียงความจริง ภาพหน้าจอด้านบนแสดงแอพ Nike Run Club (ใช้ GPS บนโทรศัพท์ของฉัน) แสดงระยะทางการวิ่ง 4.28 กม. และใน Bp Doctor Plus แสดงระยะทางการ 4.48 กม.

Bp-Doctor-Plus-การเผาผลาญ-แคลอรี่

calories burned สามารถตรวจสอบแคลอรีที่เผาผลาญตามวัน เดือน และปี

ประวัติ-การนอนหลับ

Sleep สำหรับบันทึกการตรวจสอบการนอนหลับ

 

ตาราง-การปลุก

Schedule แผนปฏิทินทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดเวลากิจกรรมต่างๆ เช่น การไปพบแพทย์และตั้งนาฬิกาปลุกให้ตื่น การกินยา วันเกิด และอื่นๆ

Bp-Doctor-Plus-โปรไฟล์

ส่วนโปรไฟล์จะช่วยให้คุณเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลที่เรากำหนดไว้ในขั้นตอนแรกของการเริ่มต้น เช่น น้ำหนักและส่วนสูง, เปลี่ยน units, เลือกหน้าปัด และอื่นๆ

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ BP Doctor PRO

สมาร์ทวอทช์จะใช้งานได้ไม่นานเท่ากับรุ่นอื่นๆ ที่ใช้หน้าจอ e-paper และเนื่องจากคุณสมบัติต่างๆ เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจอย่างต่อเนื่องและการวัดความดันโลหิต ในกรณีของฉัน ฉันใช้นาฬิกาที่มีความสว่างสูงสุด, ตั้งเวลาหน้าปัดไว้ 20 วินาที, โหมด raise to wake, อัตราการเต้นของหัวใจโหมดอัตโนมัติ และฉันวัดความดันโลหิตหนึ่งครั้งต่อวัน หลังจากชาร์จนาฬิกา ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมงจาก 10%  ฉันสามารถใช้งานได้ 2 วันครึ่ง ซึ่งในทางปฏิบัติหมายถึง 3 วันคือตั้งแต่เช้าวันจันทร์จนถึงเย็นวันพุธ

ฉันยังเลือกตัวเลือกการแสดงหน้าจอ “always-on หรือ เปิดตลอดเวลา” และความสว่างสูงสุด เพื่อดูว่าจะใช้ระยะเวลานานเท่าใดกว่าแบตเตอรี่จะหมด คำตอบ: 6 ชั่วโมง ดังนั้นสำหรับคนส่วนใหญ่ จึงไม่น่าจะเปิดใช้งานตัวเลือกนั้น เนื่องจากจะไม่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน

บทสรุป

โดยรวมแล้ว ฉันพอใจกับนาฬิกาเรือนนี้ และมันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการตรวจสอบสุขภาพร่างกาย เช่น ความดันโลหิต, อัตราการเต้นของหัวใจ, ความอิ่มตัวของออกซิเจน และอื่นๆ เป็นประจำ โดยไม่ต้องพกอุปกรณ์ขนาดใหญ่ นี่คือข้อดีและข้อเสียของสมาร์ทวอทช์ BP Doctor PRO

ข้อดีข้อเสีย
เป็นอุปกรณ์ขนาดกะทัดรัดที่ทำหน้าที่เป็นทั้งสมาร์ทวอทช์และเครื่องวัดความดันโลหิตไม่มี GPS
หน้าจอแสดงผล AMOLED ที่คมชัดและมีสีสัน หน้าจอแสดงผล AMOLED ใช้พลังงานมากกว่าและอ่านได้ยากกว่าในขณะแสงแดดจ้า
แอพ BP Doctor Plus ช่วยให้ตรวจสอบประวัติสุขภาพได้ง่ายนาฬิกาไม่สามารถกันน้ำได้ เพราะมีสาย air cuff
ราคาถูกกว่าทางเลือกอื่นที่คล้ายกันต้องชาร์จแบตเตอรี่ทุกๆ 3 วันในภาวะปกติ

ฉันขอขอบคุณ Wear Wiz ที่ส่งตัวอย่างรีวิว ขณะนี้คุณสามารถซื้อสมาร์ตวอทช์ BP Doctor PRO 2-in-1 ได้ในราคา $299.00 (~10,500฿)บนเว็บไซต์

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : BP Doctor PRO review – A 2-in-1 smartwatch and blood pressure monitor

FacebookTwitterLineEmailShare

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

โฆษณา
โฆษณา