Home Assistant คือ…

homeassistant logo

Home Assistant เป็นระบบ Home Automation ซอฟท์แวร์แบบ Open-source ฟรี ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์ IoT หรือ Smart Home ภายในบ้านหรืออาคาร (Home Automation) ได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมใช้งานทั่วโลก โดยไม่ใช้ระบบ CloudServer ของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งมักจะเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศ แต่ใช้จะเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ภายใน (Local server) ทำให้มีความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย ยังทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต เช่น สวิทช์อัจฉริยะ, ปลั๊กอัจฉริยะ, หลอดไฟอัจฉริยะ, กล้องวงจรปิด และติดตามสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสามารถใช้กับบ้านอัจฉริยะได้ รวมถึงสามารถใช้เข้าถึงข้อมูลและควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์หรือเดสก์ท็อปได้

brands Home Assistant

Home Assistant มีฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงสามารถรองรับบริการ Google Assistant หรือ Amazon Alexa, แบรนด์ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างเช่น Ikea, Sonos, Philips Hue รวมถึงการใช้ Protocol ร่วมกันอย่าง Z-wave, Zigbee และ MQTT

Home Assistant ทำงานอย่างไร

Home Assistant จะถูกติดตั้งไว้ในคอมพิวเตอร์ในระบบอื่นๆ ภายในบ้านหรืออาคาร การสั่งงานจากผู้ใช้โปรแกรมจึงจะถูกส่งเข้าไปยัง Home Assistant โดยไม่ต้องผ่าน Cloud Server ทำให้ระบบทำงานได้อย่างรวดเร็วกว่าและมีปลอดภัยสูง ซึ่งซอฟท์แวร์ Home Automation อื่นๆ มักใช้ระบบ Cloud Server ซึ่งถ้าหากอินเตอร์เนตขัดข้อง เราจะไม่สามารถสังการปิดเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้ เราจะต้องรอจนกระทั่งอินเตอร์เนตสามารถใช้งานได้ตามปกติ จึงจะสามารถสั่งงานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ต่อไปได้ แต่ Home Assistant ไม่ได้ใช้ระบบ Cloud Server จึงยังสามารถทำงานต่อไปได้ โดยสั่งงานผ่าน Local IP Address ถึงแม้ว่าอินเตอร์เนตจะขัดข้องก็ตาม  Home Assistant สามารถใช้งานกับ Ethernet, Zigbee, Wi-Fi, Bluetooth และเซนเซอร์ต่างๆ

Home Assistant

 

การติดตั้ง Home Assistant

  1. การติดตั้งบนระบบปฏิบัติการ (OS) Home Assistant : HASS  เป็นระบบปฎิบัติการทำขึ้นมาเพื่อใช้กับ Home Assistant โดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการลงในคอมพิวเตอร์ เป็นวิธีที่ง่าย
  2. Home Assistant Container การติดตั้งแบบ Standalone ของ Home Assistant Core สำหรับการติดตั้งลงบนระบบปฏิบัติการอื่น เช่น การลงบน Docker เป็นวิธีมีความวุ่นวายมาก โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยใช้ Docker แต่มันก็มีข้อดีของการลงแบบ Container คือเราสามารถสร้างมากี่ container ก็ได้ และสามารถลบได้เหมาะสำหรับนักพัฒนา
  3. Home Assistant Supervised เหมาะสำหรับบางอุปกรณ์บางชิ้นที่มีระบบปฏิบัติการ Linux ระบบปฏิบัติ OS ที่ต้องลงเอง เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์
  4. Home Assistant Core การติดตั้งด้วยตนเอง ไม่ต้องมีการติดตั้ง Docker โดยใ่ช้คำสั่ง Python เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์

โดยสามารถดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้งสำหรับระบบปฏิบัติการที่ใช้งานที่รองรับ เช่น  Raspberry Pi, ODROID, Asus Tinkerboard, Windows, MacOS, Linux และทางเลือกอื่นๆ

Home Assistant Installation

Installation Home Assistant

การเปรียบเทียบการติดตั้ง ฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานได้ทั้งหมดจะเป็นการเชื่อมต่ออุปกรอัตโนมัติ (Automation) สามารถรองรับได้ทั้งหมด, Dashboards หน้าจอการแสดงผลต่างๆ, Integrations รองรับการบริการต่างๆ ได้หลายรายการหลายยี่ห้อ ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน อย่างฟังก์ชั่นทั่วไป OS และ Supervised จะแตกต่างกันที่การจัดการของระบบปฏิบัติการ (Managed OS), ส่วน Container กับ Core ที่ทำไม่ได้จะเป็นเรื่อง Supervisor คือจะอัปเดตตัวเองไม่ได้, Add-ons ฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ, และ Core ใช้ฟังชั่น Container ไม่ได้

Compare Installation Home Assistant

ข้อดีของ Home Assistant

  • ฟรี และเป็นซอฟท์แวร์ Opensource
  • สามารถใช้งานข้ามยี่ห้อได้ ต่างระบบให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ใช้คลาวด์ของผู้ผลิตแต่ละรายกว่า 1,000 ราย
  • สามารถใช้ แอปพลิเคชั่น Home Assistant ตัวเดียวไม่ต้องใช้หลายแอปพลิเคชั่นของผู้ผลิตแต่ละราย
  • สั่งงานอุปกรณ์ได้อย่างอิสระปรับแต่งได้ สามารถเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมบนระบบเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในบ้าน
  • มีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ภายใน (Local server)
  • ทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
  • รองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า
  • รองรับอุปกรณ์ DIY

แต่ Home Assistant เป็นการเรียนรู้ที่ยากสำหรับผู้เริ่มต้น จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพื่อแก้ไขปัญหา และการปฏิบัติการร่วมกับบริการจากบุคคลที่สามเป็นจำนวนจำกัดเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
โฆษณา