LiFi : มาตรฐาน IEEE 802.11bb เทคโนโลยีใช้แสงรับ-ส่งข้อมูลภายในห้องเร็วสูงสุด 224GB/s

มาตรฐาน IEEE 802.11bb หรือ LiFi (Light fidelity) เทคโนโลยีที่รับ-ส่งข้อมูลผ่านแสงไฟ ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้สูงสุด 224GB/s ที่ระยะไม่กี่เมตรภายในห้องโดยใช้แสงแทนสัญญาณ RF (คลื่นวิทยุ) ที่ใช้ในมาตรฐานแบบไร้สายอื่นๆ

เทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนามานานหลายปี และเราติดตามเวอร์ชันของ LiFi เป็นครั้งแรกในปี 2014 ซึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐาน IEEE 802.15 มีความเร็วสูงสุด 1 Gbps โดยกลุ่ม Light Communications 802.11bb Task Group ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยมี pureLiFi เป็นประธานและได้รับสนับสนุนจาก Fraunhofer HHI ซึ่งส่งผลให้มาตรฐาน 802.11bb ได้รับการรับรองในเดือนที่แล้ว

LiFi 802.11bb

ในการติดตั้ง LiFi ทั่วไป จะต้องเชื่อมต่อผ่านเราเตอร์ที่รองรับ LiFi กับระบบเครือข่าย Local Network และอินเทอร์เน็ต, หลอดไฟที่รองรับ LiFi บนเพดาน และตัวรับ LiFi อย่างน้อยหนึ่งเครื่อง จากมุมมองของผู้ใช้งาน การทำงานจะเหมือนกับการเข้าถึงจุดเชื่อมต่อ WiFi เราได้รับแจ้งว่า “การแพร่กระจายในแนวสายตาของแสงช่วยเพิ่มความปลอดภัยซึ่งไม่สามารถทะลุกำแพงได้, ลดการรบกวน และการถูกดักฟังและสามารถใช้ในการนำทางในอาคารอย่างแม่นยำระดับเซนติเมตร”

คุณสมบัติหลักของโมดูล PureLiFi Light Antenna ONE :

  • Data Rate – มากกว่า 1 Gbps+
  • ระยะ – 20 ถึง 300 เซนติเมตร
  • มุมมอง Tx – 24 องศา
  • ความยาวคลื่นของการทำงาน – 850nm ± 10
  • Baseband – สามารถใช้งานได้กับหลายช่องสัญญาณ
  • ช่องสัญญาณ – Single หรือ Multi-channel
  • รองรับความถี่สูงสุด 300Mhz
  • การปฏิบัติตามข้อกำหนด – 802.11bb Light

ดังนั้นสำหรับโมดูลนี้ อย่างน้อยที่สุดจะต้องอยู่ห่างจากแสงไฟไม่เกินสามเมตร และ Tx FoV ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะเพื่อสตรีมเพลงได้ ถ้าโมดูลออกแบบมาให้อยู่ในโทรศัพท์ตามที่แสดงด้านล่าง และโมดูลนั้นจะไม่เหมาะกับโทรศัพท์ที่บางเป็นพิเศษ

pureLiFi Light Antenna ONE

จุดเด่นหลักของ LiFi คือความปลอดภัย/ความเป็นส่วนตัว และการรองรับตำแหน่งในอาคารที่แม่นยำในระดับเซนติเมตร ซึ่ง WiFi RTT (802.11mc) ก็เป็นตัวเลือกเหมือนกัน แต่อัตราการส่งข้อมูล LiFi สูงกว่า ตามที่อธิบายไว้ในเว็บไซต์ LiFi :

ใช้หลอดไฟ LED ธรรมดาที่ใช้ในบ้านเพื่อให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้ โดยมีความเร็วสูงสุดถึง 224 GB ต่อวินาที โดยพิจารณาจากว่า WiFi ที่เร็วที่สุดในแถบความถี่ 60 GHz ที่ชื่อ WiGig สามารถให้ความเร็วสูงสุด 7 GB ต่อวินาที ความเร็วของ LiFi สูงถึง 100 เท่ากับนั้น! ไม่เพียงเท่านั้น อัตราต่อตารางเมตรหรืออัตราข้อมูลพื้นที่ของเครือข่าย LiFi อาจสูงกว่าอัตราข้อมูลพื้นที่ของเครือข่าย WiFi ถึง 1,000 เท่า

ฉันไม่แน่ใจว่า 224GB/s เร็วกว่า 7GB/s ถึง 100 เท่าอย่างไรแต่ข้ามส่วนนี้ไปก่อน เมื่อพิจารณาในทางปฏิบัติโมดูล LiFi ด้านบนสามารถให้ความเร็วประมาณ 1 Gbps ซึ่งในทางปฏิบัติจะเทียบเท่ากับ WiFi 6 ในเรื่องประสิทธิภาพในเวลานี้ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ที่จะให้การเชื่อมต่อความเร็วสูงในสำนักงานโดยไม่ต้องเดินสายใหม่ และคุณสามารถติดตั้งหลอดไฟ LED LiFi ทั่วทั้งออฟฟิศหรือห้องเรียน และในกรณีนี้มันอาจจะเร็วกว่า WiFi (รอการยืนยัน)

LiFi สามารถนำไปใช้งานกับแอปพลิเคชัน Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR), และเกมที่มี ultra-low latency, หน่วยงานรัฐบาล, โรงพยาบาล และบริษัทต่างๆ ที่อาจต้องการความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวในระดับพิเศษสำหรับข้อมูลที่สำคัญ และภาคสนาม เช่น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศที่ต้องการลบสัญญาณรบกวนไร้สาย RF (คลื่นวิทยุ) ออกไป

รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถดูได้บนเว็บไซต์ทางการ (รวมถึง ผลิตภัณฑ์ WiFi บางอย่าง เช่น แท็บเล็ต, หลอดไฟ, อะแดปเตอร์, USB, Devkit ฯลฯ) และในข่าวประชาสัมพันธ์

lifimax flex
LiFiMAX Flex plug-and-play system สำหรับผู้ใช้พร้อมกันสูงสุด 32 คน

ที่มา : Tom’s Hardware

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : LiFi 802.11bb WiFi standard uses light for in-room data transmission up to 224GB/s

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
โฆษณา