Waveshare ได้เปิดตัว PCIe to MiniPCIe GbE USB3.2 HAT+ สำหรับ Raspberry Pi 5 โดยเพิ่มการเชื่อมต่อ Gigabit Ethernet, ซ็อกเก็ต mini PCIe สำหรับ 4G LTE และพอร์ต USB 3.2 Gen1 จำนวน 2 พอร์ตให้กับคอมพิวเตอร์บอร์ดเดี่ยว Arm ที่ได้รับความนิยม, โดย HAT+ เข้ากันได้กับโมดูล 4G LTE ได้แก่ IM7600G-H-PCIE/EG25-G-mPCIe series ที่รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 4G/3G/2G global band และ GNSS positioning นอกจากนี้ยังมี Gigabit Ethernet ที่มาพร้อมกับพอร์ต RJ45 บนบอร์ด, พอร์ต USB 3.2 Gen1 จำนวน 2 พอร์ต, ชิปตรวจสอบพลังงานบนบอร์ด และ EEPROM ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ HAT นี้มีประโยชน์สำหรับการใช้งานต่างๆ เช่น เราเตอร์อุตสาหกรรม, เกตเวย์ในบ้าน, กล่องรับสัญญาณ (set-top boxes), แล็ปท็อปอุตสาหกรรม, PDA อุตสาหกรรม, และอื่นๆ
ก่อนหน้านี้เราได้เขียนเกี่ยวกับ HAT สำหรับ Raspberry Pi 5 ประเภทต่างๆ มากมาย ที่ออกแบบโดย Waveshare เช่น Waveshare UPS HAT (E), Waveshare PoE HAT (G), Waveshare PCIe to USB 3.2 HAT+ และฑ์อื่นๆ
สเปคของ Waveshare PCIe to MiniPCIe GbE USB3.2 HAT+:
- ความเข้ากันได้–ออกแบบมาสำหรับ Raspberry Pi 5 ไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์, เชื่อมต่อและใช้งานได้ทันที
- Host Interface – คอนเนกเตอร์ PCIe FFC 16 ขา สำหรับเชื่อมต่อกับ Raspberry Pi 5
- การเชื่อมต่อระบบเครือข่าย
- Ethernet – พอร์ต RJ45 Ethernet รองรับการเชื่อมต่อ Gigabit ผ่านชิป Realtek RTL8153B
- ช่องเสียบ Mini PCIe สำหรับโมดูล 4G (รองรับโมดูล SIM7600G-H-PCIE / EG25-G-mPCIe) และช่องเสียบ Nano SIM
- รองรับ 4G/3G/2G (พร้อมโมดูล 4G ที่รองรับ)
- LTE Cat-4: สูงสุด 150 Mbps สำหรับดาวน์โหลด / 50 Mbps สำหรับอัปโหลด
- 3G (HSPA+): สูงสุด 42 Mbps สำหรับดาวน์โหลด / 5.76 Mbps สำหรับอัปโหลด
- 2G (GPRS/EDGE): สูงสุด 236.8 Kbps สำหรับดาวน์โหลด/อัปโหลด
- GNSS positioning (ใช้กับโมดูล 4G ที่รองรับ) – GPS, BeiDou, Glonass, GALILEO, QZSS, LBS
- รองรับ 4G/3G/2G (พร้อมโมดูล 4G ที่รองรับ)
- USB
- 2x พอร์ต USB 3.2 Gen1 ขับเคลื่อนโดยชิป VL805 PCIe to USB 3.2 Gen1 HUB IC
- พอร์ต USB Type-C สำหรับการเชื่อมต่อ 4G, การอัปเดตเฟิร์มแวร์ หรือการจ่ายพลังงานภายนอก
- GPIO – GPIO header ของ Raspberry Pi
- อื่นๆ
- ชิปตรวจสอบพลังงานบนบอร์ด (INA219)
- EEPROM
- สวิตช์ DIP สำหรับควบคุมพลังงานและทิศทางสัญญาณ USB
- ไฟ LED สำหรับสถานะพลังงานและเครือข่าย
- แหล่งจ่ายไฟ – 3V ~ 3.6V (5V ผ่าน USB)
- ขนาด – 65 x 56 มม.
- อุณหภูมิในการทำงาน – -40°C ถึง +80°C
เป็นข้อดีที่บอร์ด HAT+ มีหลายพอร์ต แต่ PCIe ของ Raspberry Pi 5 รองรับได้สูงสุดเพียง PCIe Gen3 x1 ซึ่งมีแบนด์วิดท์สูงสุด 8 Gbps บอร์ด HAT+ นี้เพิ่ม Gigabit Ethernet (1 Gbps), USB 3.2 Gen 1 สองพอร์ต (2x 5 Gbps ตามทฤษฎี) และโมดูล 4G LTE (แบนด์วิดท์ที่เปลี่ยนแปลงตามสภาพเครือข่าย) ให้กับ Raspberry Pi 5 ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่แบนด์วิดท์ของ PCIe บน Pi อาจกลายเป็นข้อจำกัดหากคุณพยายามใช้งานหลายพอร์ตพร้อมกันเพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุด
ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนที่จะใช้ HAT นี้สำหรับแอพพลิเคชันที่ต้องการความแม่นยำสูง จะต้องพิจารณาแบนด์วิดท์ PCIe ของ Raspberry Pi 5 และวางแผนให้เหมาะสม
บริษัทจึงระบุว่าบอร์ดนี้รองรับ Raspberry Pi OS, Ubuntu, OpenWrt และระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่มีความเร็วเครือข่ายที่เชื่อถือได้ Waveshare ยังมีคำแนะนำในการติดตั้งและสาธิตวิธีการใช้ชิปตรวจสอบพลังงานกับ Raspberry Pi 5 อีกด้วย
บอร์ดนี้มีช่วงอุณหภูมิในการทำงานตั้งแต่ -40°C ถึง +80°C และสามารถใช้สำหรับแอปพลิเคชันในอุตสาหกรรม เช่น IPC ที่ทนทานและป้ายดิจิทัล รวมถึงเราเตอร์, แล็ปท็อป, และแท็บเล็ตที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม แต่ Raspberry Pi Limited ไม่ได้ระบุช่วงอุณหภูมิในการทำงานสำหรับ Pi 5
PCIe TO MiniPCIe GbE USB3.2 HAT+ สามารถหาซื้อได้ที่ Aliexpress ราคา $29.46 (~1,000฿) และ Amazon ราคา $37.43(~1,300฿), ถ้าต้องการฟังก์ชัน 4G และ GPS จะต้องซื้อ HAT ร่วมกับโมดูล 4G SIM7600G-H และสายอากาศ มีราคา $70.06 (~2,400฿) บน Aliexpress และ $95.99(~3,300฿) บน Amazon นอกจากยังสามารถซื้อได้จาก ร้านค้า Waveshare สำหรับตัวเลือกการซื้อเพิ่มเติม
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Raspberry Pi 5 PCIe HAT+ board features gigabit Ethernet, 4G LTE (mini PCIe), two USB 3.2 ports
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT