วันนี้เราจะมารีวิวเซ็นเซอร์ตัวใหม่อีกตัวจาก SONOFF ที่เป็นแบบ Zigbee มันก็คือ Water Leak Sensor (SNZB-05P) ตัวนี้เป็นรุ่นแรกเลยของเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่วที่ SONOFF มี ที่ผ่านมาเราได้ทำการรีวิวเซ็นเซอร์ Zigbee ตัวอื่นๆแต่เป็นแบบอัพเกรดจากรุ่นก่อนๆ สำหรับสาวก SONOFF น่าจะชอบใจเพราะเซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่วเป็นตัวที่ควรจะมีใน ecosystem ของ SONOFF มาตั้งนานแล้ว ในเมื่อออกมาทีหลังสะขนาดนี้มันก็มีจุดต่างเพิ่มขึ้นมาด้วยคือ มาพร้อมกับสายขยายระยะการตรวจจับ (Extended Detection Cable) และมีขายต่างหากต้องการระยะที่มากขึ้นเกิน 2m ไอ้เจ้าสายนี้ดูแล้วน่าจะทำให้การนำไปใช้งานทำได้หลากหลายมากกว่าแค่เซ็นเซอร์ตรวจจับน้ำรั่ว มาดูกัน!
มาแกะกล่อง SONOFF Zigbee Water Leak Sensor (SNZB-05P)
ภายในกล่องประกอบไปด้วย ตัวเซ็นเซอร์ สายขยายระยะการตรวจจับ (Extended Detection Cable, 2m) กิ๊ปยึดสาย และ คู่มือขนาดจิ๋ว ตัว SNZB-05P สามารถกันน้ำด้วยมาตรฐาน IP67 (จมน้ำลึกไม่เกิน 1 เมตรภายในครึ่งชั่วโมง) ภายในใช้แบตเตอรี่ CR2477 เหมือนกับ Zigbee ตัวอื่นๆของ SONOFF ซึ่งน่าจะใช้งานได้หลายปีทีเดียว ขั้วทั้งสองถูกเคลือบไว้ด้วยทองคำเพื่อลดการกัดกร่อนในสภาพบรรยากาศที่ชื้น หรือ แม้กระทั่งการใช้งานกลางแจ้ง
ก่อนการใช้งานต้องทำการเปิดฝาหลังออกโดยการหมุนฝาแรงๆและเอาแผ่นพลาสติกบางๆออกไปเพื่อให้แบตเตอรี่เริ่มทำงาน ด้านในจะมีปุ่มเล็กที่เอาไว้สำหรับทำการ Pairing รวมไปถึง LED ขนาดเล็กเพื่อให้ดูสถานะของการ Pairing และถ้าต้องการจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ก็ต้องมีการขันน็อตออกมาก่อนตามรูปด้านล่าง ดูๆแล้วการป้องกันน้ำเข้าก็ทำได้แน่นหนาดี
เซ็นเซอร์เองจะมีขั้วสีทองสองขั้วเพื่อเป็นตัวตรวจจับน้ำรั่ว หลักการก็ตรงไปตรงมาคือถ้ามีน้ำซึ่งนำไฟฟ้ามาเชื่อมต่อขั้วทั้งสอง ไฟฟ้าก็วิ่งผ่านน้ำจากขั้วนึงไปอีกขั้วนึงมันก็จะสามารถตรวจจับได้ แน่นอนขั้วทั้งสองจะต้องวางคว่ำหน้าลงไปที่พื้น สิ่งที่น่าสนใจคือ สายขยายระยะ (Extended Detection Cable) ซึ่งมีหัว USB-C มันทำงานยังไง เพราะเราจินตนาการไปไกลถึงการ daisy chain ตัว SNZB-05P หลายๆตัวเข้าด้วยกันและมีการส่งข้อมูลไปมา แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลย มันก็แค่ขยายขอบเขตการตรวจจับนั่นเอง (มีสายไฟแบบเปลือยภายในแล้วหุ้มด้วยผ้าไนลอน) การต่อสายเข้ากับตัวเซ็นเซอร์ก็เป็นแบบแม่เหล็ก ติดง่ายและสะดวก พอมันดูดกันขั้วสีทองจะเชื่อมกับสายซึ่งเป็นการขยายระยะการตรวจจับนั่นเอง ดังนั้นหากมีน้ำมาสัมผัสที่สายนี้ด้วย มันก็จะตรวจจับน้ำรั่วได้เช่นกัน การใช้งานให้ลองนึกดูว่าเราอาจจะนำไปวางรอบๆเครื่องซักผ้า แทนที่จะตรวจจับเป็นจุดๆ พอมีสายแบบนี้ก็จะได้เป็นบริเวณไป ที่น่าสนุกคือ เราสามารถต่อสาย Extended Detection Cable ที่ยาว 2 เมตรไปได้เรื่อยๆผ่าน USB-C connector เราคิดว่าสิ่งนี้ทำให้การนำไปใช้เปิดกว้างมากขึ้น เดี๋ยวเราจะมาทดลองการใช้งานในแบบต่างๆกันดู
สเปค
ตัวเซ็นเซอร์ (Sensor) SNZB-05P
- Wireless – Zigbee 3.0 with 130m line-of-sight range
- Battery – CR2477 (3V)
- Dimensions – 48 x 48 x 21.6mm
- Weight – 45 grams
- Casing material – PC+ABS
- Temperature Range – -10 to +60°C
- Humidity – 0 to 100% RH
สายพ่วง (Extended Detection Cable) WLDC20
- Length – 2 meters
- Weight – 32g
- Material – PC+ABS
- Temperature Range – -10 to 60°C
- Humidity – 0 to 80% RH
การใช้งานกับ eWeLink
การเพิ่มอุปกรณ์เข้าไปใน eWeLink ก็เหมือนกับอุปกรณ์ Zigbee ของ SONOFF ทั่วๆไป แน่นอนเราต้องมี Zigbee Bridge/Hub ซึ่งอย่างน้อยควรเป็น SONOFF Zigbee Bridge รุ่น Pro หรือ Ultra ขั้นตอนการเพิ่มอุปกรณ์ก็ตามภาพด้านล่างไล่จากซ้ายไปขวา โดยในการทดลองนี้เราเลือกใช้ SONOFF Zigbee Bridge Ultra ซึ่งมีฟีเจอร์ Turbo ทำให้ได้ระยะที่ไกลขึ้น เราเคยรีวิวมาแล้วที่นี่
การใช้งานก็ตรงไปตรงมา เมื่อตัวเซ็นเซอร์เองมีน้ำนองด้านล่าง (สูงเกินระดับ 0.5mm) หรือ สาย Extended Detection Cable ที่ต่อกับตัวเซ็นเซอร์มีความชื้นระดับนึงจนนำไฟฟ้าได้ มันก็จะ Trigger มาที่ eWeLink ว่ามีการรั่วของน้ำ (Leaking) ดูรูปประกอบด้านล่าง แน่นอนเราก็สามารถสร้าง Scene เพื่อสั่งการอย่างอื่นได้ เช่น สั่งปิดปั้มน้ำ ส่งเสียงเตือน (Alarm) ไปที่ Zigbee Bridge หรือ การแจ้งเตือนผ่านมือถือ (Notification)
ทดสอบการใช้งาน SNZB-05P แบบตรวจจับน้ำรั่ว
เราได้ทดสอบในสภาวะที่ต้องการตรวจจับน้ำรั่วโดยเอาเซ็นเซอร์ต่อสาย Extended Detection Cable แล้วไปล้อมรอบจุดที่อยู่ใต้อ่างล้างมือ (Kitchen Sink) ตามรูปด้านล่าง เราคิดว่าการมีสายมันสร้างความหยืดหยุ่นในการติดตั้งเพราะไม่จำเป็นต้องเป็นจุดใดจุดนึงต่อไป สามารถเป็นบริเวณที่กว้างขึ้นแทน อีกนัยนึงคือการติดตั้งแบบนี้ทำให้ลดการซื้อเซ็นเซอร์ลง (แทนที่จะมีหลายๆจุดวางกระจายไว้) และทาง SONOFF มีแยกขาย Extended Detection Cable หากต้องการมากกว่า 2m หลังจากติดตั้งใต้ Sink ไปแล้วเราก็เขียน Scene ในการแจ้งเตือนตามรูป มันก็ตรงไปตรงมาดีสำหรับการใช้งาน การตอบสนองของเมื่อมีน้ำมาโดนสาย หรือโดนที่ขั้วเกือบจะทันทีทันใด
ทดสอบการใช้งาน SNZB-05P แบบตรวจจับฝนตก
เนื่องจากหลักการของ Water Leak น่าจะเอาไปทำอย่างอื่นได้ คราวนี้เราจะเอามาวัดฝนตกกัน โดยปกติเราจะวางตัวเซ็นเซอร์กลางแจ้งเพื่อให้มันทำงานได้ดีที่สุดเวลาฝนตก แต่เนื่องจากมันมี Extended Detection Cable มาให้ด้วย เราก็เลยคิดว่าการวางเซ็นเซอร์เองที่ต้องเจอแดดเจอฝนตรงๆไม่น่าจะดีต่อการใช้งานเป็นเวลานานๆ เราเลยทดลองโดยใส่เซ็นเซอร์ในกล่องพลาสติกกันน้ำแทน แล้วต่อสายออกมารับความชื้นที่เกิดจากน้ำฝนที่จะตกลงมาบนพื้นผิวซีเมนต์ วิธีนี้อย่างน้อยมันก็น่าจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเซ็นเซอร์ Zigbee ตัวนี้ หลังจากใส่กล่องแล้วเราก็เขียน Scene ขึ้นมาแจ้งเตือนแบบง่ายๆตามรูป
อย่างไรก็ตามเราหลังจากที่เราทดสอบทั้งสองแบบ ทั้ง Water Leak และ Raindrop เราพบว่าการใช้สายพ่วงขยายระยะนั้นมีจุดที่ต้องคิดคำนึงคือ หลังจากที่น้ำรั่ว หรือ ฝนหายตกแล้ว เจ้าสายที่ห่อหุ้มด้วยผ้าไนลอนมันใช้เวลานานพอสมควรที่จะแห้งจนไม่นำไฟฟ้า (เมื่อเทียบกับไม่ต่อสายซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าเพื่อให้น้ำระเหยไปหมด) จนกระทั่งเซ็นเซอร์สามารถตรวจจับการแปลงแปลงว่ามันแห้ง ถ้าต้องการให้มันแห้งเร็วอาจจะต้องหาอะไรไปเป่าร้อนเพื่อทำให้มันแห้งเร็วขึ้นก่อนนำกลับไปใช้งาน ในกรณีแบบนี้ถ้าเป็น Water Leak ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะมันไม่ควรจะรั่วบ่อยๆ แต่ถ้าเอาไปใช้กับตรวจจับฝนตกซึ่งโอกาสเกินขึ้นบ่อยกว่า พอฝนหายมันจะใช้เวลานานอาจจะเกินวันเพื่อให้กลับสู่สภาวะปกติ เราคิดว่าการนำไปใช้วัดฝนไม่ควรใช้สายมาร่วมด้วยอย่างที่เราทดสอบไปข้างต้น การวางเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับฝนก็ให้ทำเหมือนกับที่เราวางเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับน้ำรั่วคือเอาขั้วสีทองลงด้านล่างให้น้ำนองขึ้นมาโดน วิธีนี้น่าจะใช้ได้นานกว่าหงายเอาขั้วขึ้นด้านบน
การใช้งานกับ Home Assistant
เช่นเคยสำหรับผลิตภัณฑ์ Zigbee จาก SONOFF เราสามารถเลือกเอา SNZB-05P เข้าไปใช้งานใน Home Assistant ตรงๆ (ผ่าน ZHA หรือ Zigbee2MQTT) หรือ จะผ่าน AlexxIT integration ก็ได้ ในการทดสอบนี้เราเลือก ZHA บน Home Assistant 2024.6.4 ที่ทำงานอยู่บน Rasberry Pi4 และใช้ Zigbee USB Dongle ของ SONOFF เป็น Zigbee Coordinator และสิ่งที่ต้องพูดถึงคือในกรณีที่เอา SNZB-05P เข้าตรงๆไปที่ Home Assistant ทาง SONOFF แจ้งว่าต้องใช้ร่วมกับ Zigbee USB Dongle ของ SONOFF เท่านั้น อย่างไรก็ตามเราก็ไม่มีโอกาสทดสอบ SNZB-05P กับ Zigbee Coordinator ตัวอื่นๆ
และการเพิ่มอุปกรณ์ผ่าน ZHA ก็ทำได้อย่างง่ายดาย จากรูปด้านล่างเราก็ได้ entity ที่มีสถานะว่าเป็น Wet หรือ Dry มาพร้อมกับค่าแบตเตอรี่ ซึ่งพร้อมที่เอาไปใช้งานสร้าง Automation ต่อไป
สรุป
เราคิดว่าเจ้าตัว SNZB-05P เซ็นเซอร์ Water Leak ก็โอเคในระดับนึงนะ การใช้งานก็ตรงไปตรงมา ฟีเจอร์ไม่ต่างกันหากจะต้องใช้กับ eWeLink หรือกับ Home Assistant ที่น่าสนใจของตัวนี้คือมันมีสาย Extended Detection Cable มาให้ด้วยซึ่งสร้างความหยืดหยุ่นในการนำไปใช้งาน จากเดิมที่เราคุ้นเคยกันในการวางเซ็นเซอร์เป็นจุดๆ ก็กลายเป็นแบบบริเวณแทน เช่น รอบๆเครื่องซักผ้า รอบๆบริเวณใต้ซิงค์ในครัว เป็นต้น นอกจากนี้มันยังสามารถใช้เป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับฝนได้ด้วยเพราะใช้หลักการเดียวกัน อีกทั้ง สาย Extended Detection Cable ยังมาช่วยยืดอายุเซ็นเซอร์ไม่ให้โดนแดดฝนตรงๆ ลดการกัดกร่อนได้อีก ทาง SONOFF ก็ให้ทางเลือกว่าจะซื้อสายกับเซ็นเซอร์ หรือ ซื้อแยกเพื่อให้เราเอาไปใช้แต่ละจุดประสงค์ที่ต้องการ อย่างไรก็ตามเราพบว่าการใช้งานสาย Extended Detection Cable นั้นยังมีจุดที่ต้องพิจารณาเนื่องจากสายหุ้มด้วยผ้าไนลอนที่ใช้เวลานานพอสมควรกว่ามันจะแห้งกลับไปสู่สถานะปกติทำให้สถานะของเซ็นเซอร์เปลี่ยนช้าตามไปด้วย
ขอบคุณ ITEAD ที่ส่ง SONOFF Zigbee Water Leak Sensor (SNZB-05P) มาให้รีวิวในครั้งนี้ โดยชุดตัวเซนเซอร์+สายพ่วง (Extended Detection Cable) ราคา $15.9(~580฿), ถ้าซื้อเฉพาะตัวเซนเซอร์ ราคา $9.90(~360฿), หรือเฉพาะสายพ่วง (Extended Detection Cable) ราคา $7.90(~290฿) มีคูปองส่วนลด 10% เมื่อใช้โค้ด CNXSOFTSONOFF และถ้าสั่งซื้อสินค้าของบริษัทรวมกันเกิน $89 (~3,200฿) จะได้รับการจัดส่งฟรี
วิศวกรคอมพิวเตอร์สาย Infrastructure ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีทางด้าน IOT เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Smart Home, Smart Farm และยังสนใจในนวตกรรมเกี่ยวกับ Sustainability เช่น Renewable Energy และ Organic Food