UNIHIKER K10 : แพลตฟอร์มการศึกษา TinyML ราคาประหยัด รองรับการตรวจจับภาพและการจดจำเสียง

UNIHIKER K10 เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาเรียนรู้ STEM ต้นทุนต่ำสำหรับแอปพลิเคชัน TinyML ที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ไร้สาย ESP32-S3 ซึ่งมาพร้อมกับส่วนขยายเวกเตอร์สำหรับประมวลผลงาน เช่น การตรวจจับภาพหรือการจดจำเสียง

มาพร้อมกับหน้าจอสีขนาด 2.8 นิ้วในตัว, กล้อง, ลำโพง, ไมโครโฟน 2 ตัว, เซ็นเซอร์หลายตัว, ช่องใส่ microSD Card และคอนเนกเตอร์ขอบแบบ BBC Micro:bit สำหรับสัญญาณพลังงานและ GPIOs ถือเป็นรุ่นที่ปรับแต่งให้มีต้นทุนต่ำกว่ารุ่นพี่ที่ใช้ Linux อย่าง UNIHIKER M10 ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 และคุณอานนท์ยังได้รีวิว UNIHIKER ในปี 2023 โดยแสดงวิธีตั้งค่า, ใช้งานแพลตฟอร์ม SIoT กับข้อความ MQTT และเขียนโปรแกรมผ่าน Jupyter Notebook, Python หรือ Visual Studio Code มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นใหม่ที่ใช้ ESP32-S3 กัน

UNIHIKER K10

สเปคของ UNIHIKER K10:

  • โมดูลหลัก – ESP32-S3-WROOM-1
    • MCU – ESP32-S3N16R8 ซีพียู Tensilica LX7 แบบดูอัลคอร์สูงถึง 240 MHz พร้อม SRAM 512KB, PSRAM 8MB, แฟลช 16MB
    • การสื่อสารไร้สาย – WiFi 4 และ Bluetooth LE 5
    • สายอากาศแบบ PCB
  • ที่เก็บข้อมูล – ช่องใส่ microSD Card
  • จอแสดงผล – จอ LCD สีขนาด 2.8 นิ้วความละเอียด 240×320 (ใช้ไดรเวอร์ ILI9341)
  • กล้อง – กล้อง 2MP มุมมอง 80° FOV (ใช้เซนเซอร์ GC2145)
  • เสียง
    • ลำโพง 2W
    • 2x ไมโครโฟน MEMS
  • USB – 1x พอร์ต USB-C สำหรับจ่ายไฟและโปรแกรม
  • เซนเซอร์
    • เซนเซอร์อุณหภูมิ (-40-85°C) และความชื้น (0 ถึง 100%RH) AHT20
    • เซนเซอร์วัดแสงโดยรอบ LTR303ALS (สูงสุด 64k Lux)
    • เซนเซอร์วัดความเร่ง SC7A20H
  • การขยาย
    • คอนเนกเตอร์ Gravity 3 พินสำหรับ 2x GPIO
    • คอนเนกเตอร์ Gravity I2C 4 พิน
    • คอนเนกเตอร์ (Edge Connector)
      • 3x GPIO (รองรับคลิปกล้วย)
      • 15x Digital IO
      • I2C
      • 3.3V และ GND
  • อื่นๆ
    • ปุ่ม A, B, RST และ BOOT
    • ไฟ RGB LED WS2812 จำนวน 3 ดวง
  • แหล่งจ่ายไฟ
    • 5V ผ่านพอร์ต USB-C
    • 3.3V ผ่านคอนเนกเตอร์ (Edge Connector)
    • คอนเนกเตอร์ 2 พินสำหรับแบตเตอรี่
  • ขนาด – 83 x 51.6 x 11 มม.

UNIHIKER K10 specifications

ESP32-S3 TinyML demos

UNIHIKER K10 มาพร้อมกับโมเดล AI ด้านการมองเห็นและเสียงที่ติดตั้งล่วงหน้า ได้แก่ การตรวจจับใบหน้า, การจดจำภาพ, การตรวจจับแมว/สุนัข, การอ่าน QR Code, การตรวจจับการเคลื่อนไหว, การจดจำเสียงพูดแบบออฟไลน์ (Local Speech Recognition) และคำสั่งเสียงแบบกำหนดเอง สามารถสลับโหมดต่างๆ ได้ง่ายๆ ผ่านปุ่ม A/B บนตัวบอร์ด

แม้เดโมจะน่าสนใจ แต่ถ้านักเรียนไม่สามารถเรียนรู้การเขียนโปรแกรม มันก็คงไม่ใช่แพลตฟอร์มการศึกษาที่แท้จริง ซึ่ง UNIHIKER K10 รองรับการเขียนโค้ดได้สองวิธี:

  • MindPlus ซึ่งเป็น IDE แบบบล็อกโค้ด (Visual Programming) ที่ใช้ได้บน Windows, macOS และ Linux
  • MicroPython firmware พร้อม IDE เช่น Thonny

คุณสามารถหาเอกสารแนะนำและตัวอย่างโค้ดทั้งหมดได้บน Wiki

DFRobot ระบุว่า UNIHIKER K10 เหมาะสำหรับนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ขึ้นไป (อายุ 8 ปีขึ้นไป) ขณะที่ UNIHIKER M10 ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเหมาะสำหรับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ขึ้นไป (อายุ 11 ปีขึ้นไป) เนื่องจากรองรับโมเดลขั้นสูง เช่น Yolo, MobileNet และ MediaPipe

UNIHIKER K10 วางจำหน่ายบน DFRobot ราคา $28.90 (~1,000฿)ยังไม่รวมค่าจัดส่ง เมื่อเทียบกับ UNIHIKER M10 รุ่นเดิมราคา $79.90 (~2,700฿) แต่ DFRobot มีโปรโมชั่นพิเศษ จนถึงวันที่ 15 เมษายน โดยสามารถซื้อชุดรวม UNIHIKER K10 + M10 ได้ในราคาเพียง $79.90 (~2,700฿)

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : UNIHIKER K10 low-cost TinyML education platform supports image detection and voice recognition

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
โฆษณา