เราจะมารีวิวแบบเร็วๆ กับม่านอัจฉริยะ Motorized Smart Outdoor Shades จาก Weffort ซึ่งเป็นอีกค่ายที่ทำม่านแบบอัจฉริยะเกรดพรีเมี่ยมที่สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม Smart Home ยอดนิยมไม่ว่าจะเป็น Home Assistant, SmartThings, Google Home, Apple Homekit หรือ Amazon Alexa
จุดเด่นของม่านจาก Weffort คือสามารถ customise ทุกอย่างแบบ made-to-order ตั้งแต่ชนิดของมอเตอร์ ความโปร่งของม่าน วัสดุ ขนาด แพลตฟอร์มที่ใช้ควบคุม ดูเหมือนจะหลากหลายจนงงไปหมด แต่จริงๆมันง่ายกว่าที่คิด ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบาที่ผู้ใช้สามารถติดตั้งได้ด้วยตนเอง
ก่อนที่จะได้ตัวม่านจาก Weffort มาทดสอบทาง ทาง Weffort ติดต่อให้เราหาบริเวณที่เหมาะสมเพื่อทดสอบ เราได้วัดขนาดด้วยตนเองโดยดูจากคำแนะนำเรื่องการวัดจากเวปไซด์ https://www.weffortshades.com ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้วัสดุ การติดตั้ง การวัด การดูแลรักษา
Weffort มีแบบม่านให้เลือกมากมายกว่า 9 แบบ แถมมี sample ของวัสดุม่านให้สั่งไปลองเลือกดูก่อน มีชนิดของ Motor ที่ทั้งแบบเสียบปลั๊กหรือแบบแบตเตอรี่ลิเธียมในตัว ม่านสามารถควบคุมโดยใช้รีโมท IR ไปจนถึงแบบล้ำๆผ่าน Smart home แอปค่ายต่างๆโดยผ่านมาตรฐานยอดนิยมในตลาด เช่น Zigbee, Matter, Apple HomeKit หรือ Z-Wave ซึ่งเราสามารถ config เองในเวปแล้วก็สั่งของ ไม่ถึง 15 วันเราก็ได้ม่านที่ customise ตามที่เราต้องการส่งมาที่บ้าน และเนื่องจากมอเตอร์แต่ละแบบจะสนับสนุนแพลตฟอร์ม Smart Home ที่ต่างกันให้ดูชาร์ตข้างล่างประกอบ
ในการรีวิวนี้เราได้ทดลองกับม่านชนิด Outdoor ที่ใช้มอเตอร์ที่มีแบตเตอรี่ในตัว เราเลือกการควบคุมผ่าน Matter / Thread ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของ Smart Home เนื่องจากบริเวณที่ติดตั้งไม่มีปลั๊กใดๆ เราจึงเพิ่มให้มีแผงโซลาร์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่แทน บริเวณที่ทดลองติดตั้งคือด้านนอกของห้องนอนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและต้องกรองแสงสว่างยามค่ำคืนได้ระดับนึง ซึ่งสุดท้ายเลือกสีดำ ที่ระดับความโปร่งแสงแค่ 1%
ก่อนที่เราจะเขียนรีวิวนี้เราได้ทดลองใช้งานจริงๆกว่า 3 อาทิตย์ ตั้งแต่ทำการติดตั้งด้วยตนเองกับม่านที่ใหญ่เกือบๆ 3 เมตร ทดสอบแสงที่ลอดผ่าน รวมถึงความดังเวลาม่านทำงาน นอกจากนั้นได้เขียน Automation เพื่อควบคุมและใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆในแพลตฟอร์ม Smart Home
มาดูในรายละเอียดกัน
มาแกะกล่อง ม่านอัจฉริยะ Motorized Smart Outdoor Shades
เราได้รับพัสดุที่ส่งมาอย่างดีโดย DHL มีตัวกันกระแทกโดยรอบ เมื่อแกะกล่องมาทุกอย่างดูปกติ กล่องที่ได้รับมีแค่กล่องเดียวโดยทุกอย่างอยู่ภายในทั้งหมด ตั้งแต่รางม่านพร้อมตัวม่าน คู่มือติดตั้ง คู่มือตั้งโปรแกรมรีโมท คู่มือติดตั้งกับ Smart Home (Matter) สายชาร์จแบตเตอรี่ สกรู พุก ตัวยึดม่าน(4) รีโมทคอนโทรลแบบอินฟราเรด ที่ชาร์จไฟ ลวดยึดม่าน และแผงโซลาร์เซลล์ที่ไม่ใหญ่มาก แน่นอนเราได้ลองสัมผัสวัสดุของม่านดู วัสดุที่ใช้ดูดี พรีเมี่ยม รางม่านน่าจะเป็นวัสดุที่ทำจากอลูมิเนี่ยมแข็งแรงสีดำซึ่งมีขนาดเบาถึงแม้จะยาวกว่า 2.5 เมตร ก็ตาม
สเปคของมอเตอร์
เนื่องจากเป็น made-to-order ซึ่งจะ customise ตามที่ลูกค้าสั่ง สเปคที่อยู่ด้านล่างจะเป็นของรุ่น Matter / Thread ซึ่งจะต่างจากมอเตอร์รุ่นอื่นๆในเรื่องระบบอิเล็กทรอนิคส์
- Model – Matter/Thread
- Motor torque – 1.1N / 24rpm
- Chipset – Nordic
- Battery – Two 18650 batteries (2600mAh each)
- Battery charging time – Approximately 4–6 hours per full charge
- Battery Life – One full charge can last 6 months (open and close once a day)
- LED Indicator – Flashes green (charging), Solid green (fully charged)
- Standby current – 1A
- Nominal voltage –12V
- Solar panel specifications:
- Efficiency – 22%
- Open circuit voltage (Voc) – 22.4V
- Short circuit current (Isc) – 252mA
- Working voltage (Vm) – 17.6V
- Working current (Im) – 227mA
- Power (Pm) – 4.0W
การติดตั้งม่านอัจฉริยะ Motorized Smart Outdoor Shades
ตัวรางม่านจะมีตัวยึด (bracket) มาให้ 4 ตัว (ดูรูปด้านล่างประกอบ) ตัวยึดนี้จะถูกยึดกับผนังด้านนอกของหน้าต่างห้องนอนบริเวณขอบซีเมนต์สีขาวด้วยสกรูและพุกที่มาด้วยกัน ให้แน่ใจว่าว่าตัวยึด 4 ตัวกระจายการรับน้ำหนักอย่างทั่วถึงและระดับให้พอดีกัน
หลังจากยิงตัวยึดทั้ง 4 ตัวเสร็จ เราก็สามารถเอารางม่านเข้าไปติดโดยผลักเข้าไปให้ยึดกับรางอย่างง่าย ให้มีเสียงล็อคก็เป็นอันใช้ได้ ม่านที่เราสั่งมาถูก config ให้มอเตอร์อยู่ด้านซ้ายที่ๆเราจะเสียบสายชาร์แบตเตอรี่เข้ากับแผงโซลาร์เซลล์สีดำและมีแสงแดดตกกระทบพอดี
หลังจากติดตั้งตัวม่าน เราก็ทำการ wake up ตัวม่านที่ถูกทำให้ sleep มาจากโรงงานเพื่อความปลอดภัยระหว่างขนส่ง จากนั้นเราก็ทำการจับคู่กับรีโมทที่ให้มา ต่อด้วยการปรับตำแหน่งของม่านที่ขึ้นสุดลงสุดได้เท่าไหร่ด้วยรีโมท ก่อนที่จะมาขั้นตอนสุดท้ายคือการเพิ่มม่านอัฉริยะนี้เข้าไปในระบบ Smart home ของบ้านโดยเราเลือกทดสอบกับแพลตฟอร์ม Home Assistant ที่เป็น Opensource ยอดนิยม
การติดตั้งตัวม่านที่หน้างานใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ด้วยแรงงานเพียงคนเดียว แน่นอนมันง่ายกว่าที่คิด และที่สำคัญน่าจะประหยัดเงินค่าการติดตั้งไปเยอะอยู่
การทำงาน ม่านอัจฉริยะ Motorized Smart Outdoor Shades ร่วมกับ Home Assistant
ชนิดมอเตอร์ที่เราเลือกมาคือแบบ Matter / Thread จริงๆเราอยากลอง Zigbee มากกว่าแต่เนื่องจากบริเวณนั้นมี Wifi Acces Point (AP) อยู่ใกล้ๆไม่ถึงสามเมตร (การทำงานของ Matter จะทำงานผ่าน IPv6 ซึ่งต้องมี Wifi) ขณะที่ถ้าใช้ Zigbee เราจำเป็นต้องจัดหาตัว Zigbee Repeater แถวนั้นเพิ่มขึ้นมาอีก ดังนั้นก็จบที่รุ่น Matter / Thread
ขั้นตอนการติดตั้งก็เป็นไปอย่างง่ายตามสไตล์ Matter ที่ใช้การ scan QR code เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ไม่ว่าจะติดตั้งในแพลตฟอร์มไหน (ดูรูปประกอบด้านล่าง) สำหรับ Home Assistant เราใช้สเปคเครื่องและซอฟท์แวร์ดังนี้
- Raspberry Pi 4B (8GB RAM)
- Home Assistant Core เวอร์ชั่น 2025.6.3
- Home Assistant Operating System 15.2
เนื่องจาก Thread ต้องมีอุปกรณ์ Thread Boarder Router เป็นตัวจัดการอุปกรณ์ในเครือข่าย ในการทดสอบนี้เราใช้ Apple HomeMini ที่มีเวอร์ชั่นล่าสุด OS26
หลังจากติดตั้งเสร็จเราก็จะเห็น Entities ต่างๆปรากฏขึ้นมาให้ Home Assistant GUI ตามรูปด้านล่าง และเราได้ทดสอบการเปิดปิดผ่านมือถือที่ติดตั้ง Home Assistant Companion App ทุกอย่างเป็นไปด้วยดีตามที่คาดหวัง
แน่นอนเราได้ทดลองไปมากกว่านั้นโดยการสร้าง Automation เพื่อให้ม่านเปิดปิดอันโนมัติ เช่น เปิดม่านทุกๆ 6 โมงเช้า ปิดม่านก่อนเวลาเข้านอนที่เรากำหนดไว้ก่อน 2 ชั่วโมง
บริเวณที่เราติดตั้งหน้าต่างเป็นแบบสไลด์จึงไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆทำให้ไม่ต้องเขียน Automation เพื่อเช็คว่าหน้าต่างขวางอยู่หรือเปล่าเหมือนกับรีวิวคราวก่อนของ SmartWings ที่เราเลือกติดกับประตูที่เป็นบานผลักซึ่งต้องมีเซ็นเซอร์ประตูคอยตรวจสอบเพราะไม่เช่นนั้นม่านจะติดและยับ
การสร้าง Automation ก็สามารถทำให้พลิกแพลงมากกว่านี้นอกเหนือจากการใช้เวลาที่ตัวเปิดปิด ยกตัวอย่างเช่น การใช้อุณภูมิภายในห้องเป็นตัว trigger เช่น ถ้าเกิน 33c ให้ทำการปิดม่านเพื่อบังแดดลดอุณหภูมิ หรือ หากเซ็นเซอร์วัดความเร็วลมนอกบ้านมีค่าความแรงลมเกิน 40km/h ก็ให้เปิดม่านให้สุดเพื่อลดความเสียหายที่เกิดจากลมพัดเป็นต้น
เราพยายามหาว่ามี Dashboard อะไรที่สามารถทำงานร่วมกับพวก Cover / Shade / Blind แบบสวยๆที่ดูดีกว่าแบบที่ให้มา แล้วเราก็พบ Enhanced Shutter Card จากใน Github ที่สามารถเอาภาพจากหน้าต่างจริงๆมาโชว์เป็น background ก็สวยและสะดวกไม่เบา
ลองดูคลิปวิดีโอการทำงานด้านล่างประกอบ
การทดสอบถัดไปคือเรื่องของแบตเตอรี่ จากสเปคที่เราทราบจาก Weffort ถ้ามีการเปิดและปิดหนึ่งครั้งต่อวัน แบตที่ชาร์จเต็มจะทำงานได้เกือบๆ 6 เดือนทีเดียว เราลองได้ลองสังเกตุการชาร์ตแบตจากแผงโซลาร์ที่ให้มาหลังติดตั้ง พบว่าเมื่อมีการเปิดและปิดหนึ่งครั้งต่อวัน แบตเตอรี่ที่ให้มาเหลือเฟือ มีการชาร์จแบตเรื่อยๆ ทุกวันถึงแม้ว่าแผงโซลาร์ไม่ได้ถูกแดดโดยตรงและระหว่างการทดลองอยู่ในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ใช้มาสามอาทิตย์กว่าๆ สถานะแบตไม่เคยต่ำกว่า 90% เราค่อนข้างประทับใจไม่น้อยกับการจัดการพลังงาน ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก Thread ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานแบบประหยัดกว่าเทคโนโลยีในแบบอื่นๆ
ถัดมาเราได้ทดสอบความ privacy และ การกรองแสง ให้ดูรูปด้านล่างประกอบ รูปแรกถ่ายจากภายในห้องนอนช่วงรุ่งสาง ทดสอบโดยเปิดม่านแค่ 25% แล้วให้ดูความแตกต่างของแสงที่เข้ามา มันไม่ได้ 100% กรองแสงแต่ก็ลดแสงที่เข้ามาได้ดีทีเดียว มันจะช่วยได้มากถ้าหากเราเป็นคนอ่อนไหวต่อแสงเวลานอน
รูปด้านล่างขวาคือการทดสอบเรื่อง privacy ที่ถ่ายจากด้านนอกของห้องนอนช่วงพลบค่ำ พบว่าให้ความเป็นส่วนตัวในระดับที่น่าพอใจ ความโปร่งแสงที่เราเลือกคือ 1% ซึ่งถือว่าโปร่งน้อยสุด
นอกจากนั้นเราได้วัดเสียงขณะที่มอเตอร์ทำงาน โดยการทดสอบทำตอนเช้าหลังตื่นนอนซึ่งเป็นช่วงที่เสียงรบกวนน่าจะน้อยที่สุดในบริเวณที่ทดสอบ การทดสอบใช้แอปบนมือถือ (dBMeter on iOS) วัด ผลลัพธ์ที่ได้คือ เสียงเบามากในระดับใกล้เคียงกับการพูดคุย ปกติ (40-50 dB) และ แน่นอนไม่สามารถทำให้เราตื่นนอนได้จากเสียงม่านเปิด 😉
บทสรุป
เราใช้เวลาทดสอบค่อนข้างนานเพราะว่าภาระกิจเยอะกว่าจะได้สรุปรีวิว แต่ก็ดีตรงที่มีโอกาสใช้งานจริงได้นานกว่าปกติ โดยรวมเราคิดว่า WeffortShade ทำ Smart Shade ได้ออกมาดีเลย ประสบการณ์โดยรวมตั้งแต่การ config ที่ทำได้ง่ายเป็นขั้นตอน การส่งของ ข้อแนะนำติดตั้ง รวมถึงการตอบคำถามเมื่อเราได้ถามไปทางอีเมล์ เราชอบการ customisation ของม่านที่หลากหลาย วัสดุตัวม่านดูหรู รางม่านเบาแต่แข็งแรงด้วยอลูมิเนียม การทำงานที่เงียบถึงแม้ติดตรงห้องนอน สามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเองในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ส่วนการทำงานกับ Home Assistant ก็ไม่มีที่ติ แน่นอนเราแทบไม่ได้ใช้รีโมทที่ให้มาสักเท่าไหร่ เพราะใช้ Automation เป็นหลักในการสั่งการ การทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ในห้องนอน เช่น อุณหภูมิ ลม หรือ แสง ก็เป็นไปได้ด้วยดีขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ที่เรามี
ท้ายสุดนี้เราคิดว่าม่านจาก Weffort มาครบทั้งความอัจฉริยะและความสวยงามเลิศหรูภายในตัวเดียวกัน อย่างไรก็ตามมันมาพร้อมกับราคาค่อนข้างระดับพรีเมี่ยม
ขอขอบคุณ Weffort ที่ส่งผ้าม่าน Motorized Smart Outdoor Shades มาให้เราได้รีวิวครั้งนี้ สามารถสั่งซื้อผ้าม่านที่รีวิวนี้จากเว็บไซต์ของบริษัท (ใช้โค้ด Creator8 เพื่อรับส่วนลด 8%) และบน Amazon โดยราคาขึ้นอยู่กับการเลือกชนิดม่าน เนื้อผ้า ขนาดที่ต้องการ และตัวเลือกอื่นๆ ตามที่เราต้องการ
ชาวสวนสาย Infrastructure ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีทางด้าน IOT เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Smart Home, Smart Farm และยังสนใจในนวตกรรมเกี่ยวกับ Sustainability เช่น Renewable Energy และ Organic Food