บอร์ด Challenger+ RP2350 WiFi6/BLE5 ที่ใช้ชิป Raspberry Pi RP2350 กับโมดูล ESP32-C6 WiFi 6 และ Bluetooth 5.4 LE

คุณไม่ต้องรอ Raspberry Pi Pico 2 W เพื่อให้ได้บอร์ด Raspberry Pi RP2350 ที่มี WiFi และ Bluetooth เพราะมีบอร์ด Challenger+ RP2350 WiFi6/BLE5 ที่รวมชิปไมโครคอนโทรลเลอร์ RP2350A กับโมดูล ESP32-C6 ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ 2.4 GHz WiFi 6 และ Bluetooth 5.4 LE

บอร์ดนี้ใช้ Adafruit Feather form factor โดยมีรู (Through holes) 28-pin สำหรับ I/O ทำให้สามารถเข้ากันได้กับบอร์ดเสริม FeatherWings มาพร้อมพอร์ต USB-C สำหรับการจ่ายไฟและการเขียนโปรแกรม และมีคอนเนกเตอร์ JST พร้อมวงจรชาร์จสำหรับผู้ที่ต้องการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่ LiPo

Raspberry Pi RP2350 board ESP32 C6 WiFi module

สเปคของบอร์ด Challenger+ RP2350 WiFi6/BLE5:

  • ไมโครคอนโทรลเลอร์– Raspberry Pi RP2350A MCU
    • CPU
      • Dual-core Arm Cortex-M33 processor @ 150MHz
      • Dual-core 32-bit RISC-V processor @ 150MHz
      • สามารถใช้งานได้เพียง 2 คอร์เท่านั้นในเวลาที่กำหนด
    • หน่วยความจำ – RAM ภายใน 520KB
    • หน่วยความจำแบบ OTP ขนาด 8KB
    • แพ็คเกจ – QFN-60; 7×7 มม.
  • หน่วยความจำ – PSRAM 8M
  • สตอเรจ – SPI flash 8MB @ 133 MHz
  • โมดูลสื่อสารไร้สาย – Espressif Systems ESP32-C6-MINI-1 เชื่อมต่อกับ RP2350A ผ่าน SPI และ UART พร้อม 3x GPIO สำหรับการควบคุม
    • SoC – ESP32-C6H4 32-bit RISC-V microprocessor สูงสุด 160 MHz พร้อม ROM 320KB, HP SRAM 512KB, LP SRAM 16KB, flash 4MB
    • การเสื่อสารไร้สาย
      • WiFi 6 ความถี่ 2.4 GHz พร้อมรองรับ Target Wake Time (TWT)
      • Bluetooth 5.4 LE และ Mesh
      • IEEE 802.15.4 พร้อม Zigbee, Thread และ Matter
    • สายอากาศ PCB
  • USB – 1x พอร์ต USB 1.1 Type-C (12 Mbps) สำหรับการจ่ายไฟ ข้อมูล และการเขียนโปรแกรม
  • การขยาย
    • 16-pin + 12-pin headers พร้อม
      • สูงถึง 16x GPIO
      • 1x SPI, 1x I2C, 1x UART
      • 4x analog inputs
      • พินทั้งหมดสามารถใช้เป็น PWM ได้
      • USB (5V), 3.3V, BAT และ GND
    • 2x คอนเนกเตอร์ BConnect (ต้องตรวจสอบเนื่องจากไม่มีภาพจากด้านล่าง และเห็นเพียงหนึ่งช่องที่ด้านบน)
  • อื่นๆ
    • ปุ่มรีเซ็ตและบูต
    • ไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จ, ไฟ LED แสดงสถานะผู้ใช้งาน
    • NEOpixel RGB LED (ต้องตรวจสอบ)
  • แหล่งจ่ายไฟ
    • 5V ผ่านพอร์ต USB-C หรือพิน “USB” (ต้องใช้ Schottky diode)
    • คอนเนกเตอร์ JST ระยะห่าง 1.25 มม. สำหรับแบตเตอรี่ LiPo
    • ตัวชาร์จ LiPo บนเครื่องพร้อมกระแสไฟชาร์จมาตรฐาน 500mA
  • ขนาด – 50.8 x 22.9 x 3.2 มม. (Adafruit Feather form factor)
  • น้ำหนัก – 9 กรัม
Challenger RP2350 WiFi6 BLE5 board
ไดอะแกรมพินเอาต์ – สีส้มสำหรับ CircuitPython, สีน้ำเงินสำหรับ Arduino

 

โมดูล ESP32-C6 มาพร้อมกับเฟิร์มแวร์ ESP-AT ที่ติดตั้งไว้ล่วงหน้าโดยค่าเริ่มต้น และควบคุมโดยคำสั่ง AT ที่ส่งผ่าน UART จาก Raspberry Pi RP2350 แต่ยังรองรับเฟิร์มแวร์ ESP-Hosted ผ่านการเชื่อมต่อ SPI (อยู่ระหว่างการพัฒนา) iLabs กล่าวถึงการรองรับ Arduino/PlatformIO และ CircuitPython สำหรับ Raspberry Pi RP2350 ซึ่งทำให้แปลกใจเนื่องจากบริษัทอื่น ๆ บอกว่ายังไม่มีการรองรับ Arduino แต่คำอธิบายคือ Challenger+ RP2350 WiFi6/BLE5 อิงจาก repository arduino-pico-rp2350 ที่อยู่ใน Alpha ขณะนี้ อีกแหล่งข้อมูลบนเว็บไซต์ระบุว่าบอร์ดยังรองรับ Raspberry Pi Pico C/C++ SDK และการรองรับ MicroPython กำลังในเร็ว ๆ นี้

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงเอกสารประกอบบางส่วนและตัวอย่างโค้ด Arduino ได้ที่หน้าเว็บ iLabs stores บอร์ดนี้ขายในราคา 249 โครนสวีเดน (~800฿) แต่ถ้าไม่ต้องการการเชื่อมต่อแบบไร้สาย บริษัทมีบอร์ด Challenger+ RP2350 BConnect ราคา 149 โครนสวีเดน(~500฿)

แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : Challenger+ RP2350 WiFi6/BLE5 board combines Raspberry Pi RP2350 MCU with ESP32-C6 WiFi 6 and Bluetooth 5.4 LE module

FacebookTwitterLineEmailShare

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

โฆษณา
โฆษณา