REETLE SmartInk I – เคสโทรศัพท์จอ E-Ink อัจฉริยะ พร้อมระบบ AI และฟังก์ชันบันทึกเสียง

REETLE SmartInk I เป็นเคสโทรศัพท์ที่มาพร้อมจอ E-Ink แบบสัมผัสและฟีเจอร์ AI ในตัว โดยมีหน้าจอรองด้านหลังสำหรับอ่านข้อความ ดูโน้ต บันทึกเสียง และแสดงรายการสิ่งที่ต้องทำ ช่วยให้ทำงานพื้นฐานได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอหลักของโทรศัพท์

ด้านหลังติดตั้งจอ E-Ink แบบสัมผัสขนาด 3.97 นิ้ว รองรับการบันทึกเสียงด้วยปุ่มเดียว การถอดเสียงด้วย AI การสรุปเนื้อหา และการแสดง To-Do อัจฉริยะ ทั้งหมดซิงก์กับแอปแอป Companion มือถือผ่าน Bluetooth 5.0 รองรับ iPhone ซีรีส์ 13–17 และสมาร์ทโฟน Android หลากหลายรุ่น ใช้แบตเตอรี่ความจุ 300 mAh รองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe กำลัง 10W ใช้งานอ่านได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง บันทึกเสียง 8 ชั่วโมง และสแตนด์บายได้นานกว่า 2 สัปดาห์

ตัวเคสมีน้ำหนักประมาณ 55 กรัม ความหนารวมไม่เกิน 4 มม. มาพร้อมการป้องกันการตกกระแทกระดับมาตรฐานทางทหาร กระจกนิรภัย การสลับวิดเจ็ตได้ (เช่น คิวอาร์โค้ด โน้ต ตารางเวลา) ดีไซน์บางเฉียบ และช่วงอุณหภูมิการทำงาน 10°C ถึง 55°C เหมาะสำหรับการประชุม การสัมภาษณ์ การอ่าน การจดบันทึก และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานระหว่างเดินทาง

สเปคของ REETLE SmartInk I (รุ่น ETS 1301) :

ความเข้ากันได้
- iPhone 13 ถึง iPhone 17
- สมาร์ทโฟน Android (รองรับรุ่นต่าง ๆ ผ่านแอป Companion)
จอแสดงผล – จอ E-Ink แบบสัมผัส ขนาด 3.97 นิ้ว, ความละเอียด 480 × 800 พิกเซล, ความหนาแน่นพิกเซล 235 PPI
ระบบสัมผัส
- แผงสัมผัสแบบ Capacitive
- ควบคุมการใช้งานผ่านการสัมผัสบนตัวเครื่องและผ่านแอปมือถือ
การเชื่อมต่อไร้สาย – Bluetooth 5.0
ระบบเสียง – ไมโครโฟนในตัวสำหรับบันทึกเสียง, บันทึกเสียงได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง
อื่น ๆ
- ปุ่มเปิด/ปิด (รองรับการสั่งงานด้วยท่าทาง/เจสเจอร์)
- ปุ่มบันทึกเสียงโดยเฉพาะ
- ใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
- โหมดสแตนด์บายได้นานกว่า 2 สัปดาห์
- ฟีเจอร์ AI: ถอดเสียง (Transcription), สรุปเนื้อหา (Summarization), ซิงก์ To-Do อัจฉริยะ
พลังงาน
- แบตเตอรี่ลิเธียมแบบชาร์จซ้ำได้ ความจุ 300 mAh
- รองรับการชาร์จไร้สายกำลัง 10W สำหรับแบตเตอรี่ 300 mAh
ขนาด − 152 × 74.5 × 12.5 มม. (ยาว × กว้าง × หนา)
น้ำหนัก − 55 กรัม
ช่วงอุณหภูมิการทำงาน − 10°C ถึง +55°C
โครงสร้าง − กระจกนิรภัย, การป้องกันการตกกระแทกระดับมาตรฐานทางทหาร

ซอฟต์แวร์รองรับการใช้งานผ่านแอป Companion บนมือถือสำหรับ iOS และ Android, ซึ่งทำหน้าที่ในการจับคู่กับอุปกรณ์ ซิงก์ข้อมูล บันทึกเสียง และประมวลผลการถอดเสียงรวมถึงการสรุปเนื้อหาด้วย AI แอปนี้ใช้สำหรับตั้งค่าวิดเจ็ต จัดการโน้ตและรายการสิ่งที่ต้องทำ (To-Do) รวมถึงส่งข้อมูลที่เลือกไปแสดงบนหน้าจอ E-Ink ผ่าน Bluetooth ในขณะที่ตัว SmartInk I เองทำหน้าที่เป็นหน้าจอรองแบบประหยัดพลังงาน โดยไม่สามารถรันแอปแบบสแตนด์อโลนได้

REETLE SmartInk I สามารถบันทึกเสียงต่อเนื่องได้สูงสุดประมาณ 8 ชั่วโมงต่อหนึ่งครั้งการบันทึก โดยสมมติว่าแบตเตอรี่มีพลังงานเพียงพอและไม่มีการสั่งหยุดบันทึกด้วยตนเอง เมื่อเวลาประมาณ 8 ชั่วโมง การบันทึกจะหยุดลงเนื่องจากข้อจำกัดของแบตเตอรี่หรือข้อจำกัดของไฟล์ภายใน จากนั้นจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ใหม่หรือรีสตาร์ทอุปกรณ์ก่อนจึงจะสามารถบันทึกต่อได้อีกครั้ง เสียงที่บันทึกจะถูกส่งไปยังแอป Companion บนสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth ทันที และเมื่อข้อมูลเสียงถึงแอปแล้ว การประมวลผลด้วย AI (เช่น การถอดเสียง การสรุปเนื้อหา และการดึงประเด็นสำคัญ) จะเกิดขึ้นภายในแอปหรือบนระบบคลาวด์ โดยผลลัพธ์ทั้งหมดจะถูกจัดเก็บและจัดการผ่านแอปเป็นหลัก

ก่อนหน้านี้เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับ YotaPhone 3 ตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่ผสานจอ E-Ink ขนาด 5.2 นิ้วไว้ในตัวเครื่องโดยตรง ดังนั้นแนวคิดนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ทั้งหมด โดย REETLE SmartInk I ได้นำไอเดียในลักษณะเดียวกันมาประยุกต์ใช้ในรูปแบบของ เคสโทรศัพท์ แทนการเป็นสมาร์ทโฟนเฉพาะทาง นอกจากนี้ เรายังเคยนำเสนอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้จอ E-Ink แบบสี เช่น Bigme HiBreak Pro, Onyx BOOX Tab และอื่น ๆ

REETLE SmartInk I Basic Kit 1 — REETLE SmartInk I Basic Kit

REETLE Android Smartphones — สมาร์ทโฟน Android บางรุ่นที่รองรับการใช้งานกับเคส REETLE SmartInk I

ขณะนี้ REETLE SmartInk I เปิดให้สั่งซื้อผ่าน Kickstarter พร้อมการจัดส่งทั่วโลก โดยราคาสำหรับ 1 ชิ้นอยู่ที่ $119 (~3,700฿) สำหรับผู้สนับสนุนแพ็กเกจ Super Early Bird, $149 (~4,700฿) สำหรับ Early Bird และ $169 (~5,300฿) สำหรับแพ็กเกจ Kickstarter Special ซึ่งราคาขายปลีกในอนาคตจะเพิ่มเป็น $199 (~6,300฿)ตัวผลิตภัณฑ์มีให้เลือกทั้งรุ่นเฉพาะสำหรับ iPhone และรุ่น Universal รองรับสมาร์ทโฟน Android ส่วนใหญ่, ตามไทม์ไลน์ของโครงการ มีกำหนดเริ่มการผลิตจำนวนมากในเดือน มกราคม 2026 และคาดว่าจะเริ่มจัดส่งสินค้าในช่วงกุมภาพันธ์–มีนาคม 2026