HackyPi 2.0 เป็นเครื่องมือ USB สำหรับงานการแฮ็ก (Hacking) และระบบอัตโนมัติที่พัฒนาบน ESP32-S3 ออกแบบมาทั้งสำหรับผู้ที่เขียนโค้ดและผู้ที่ไม่เขียนโค้ด รองรับการควบคุมด้วย AI, การฉีดคีย์สโตรกแบบ HID, BadUSB และอินเทอร์เฟซแบบ no-code สำหรับการเรียนรู้, การทำงานอัตโนมัติ, การแฮ็กเชิงจริยธรรม (Ethical Hacking) และการโต้ตอบกับระบบโดยรวม
เมื่อเทียบกับ HackyPi รุ่นแรกที่ใช้ Raspberry Pi RP2040, แต่รุ่น HackyPi 2.0 เพิ่ม Wi-Fi และ Bluetooth, การเข้าถึงระยะไกล, การผสาน AI และการตรวจจับระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยยังคงรองรับ BadUSB และการฉีดคีย์สโตรกแบบ HID พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น โหมด mouse jiggler, การบล็อกเว็บไซต์เพื่อความปลอดภัยของเด็ก, ไฟสถานะ RGB และรองรับ UI ที่พัฒนาด้วย LVGL ทุกอย่างสามารถควบคุมได้ผ่านอินเทอร์เฟซแบบภาพที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น และยังมีโหมดขั้นสูงสำหรับรันคำสั่งสคริปต์ และเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติเมื่อจำเป็นต้องควบคุมเชิงลึก
สเปคของ HackyPi 2.0 specifications:
- SoC หลัก – ESP32-S3
- CPU – ไมโครโปรเซสเซอร์ LX7 แบบดูอัลคอร์ ความเร็วสูงสุด 240 MHz พร้อม Vector Extension สำหรับงาน Machine Learning
- ไร้สาย – Wi-Fi 4 และ Bluetooth 5 (รองรับ LE/Mesh)
- จอแสดงผล – จอ LCD ขนาดเล็กในตัวบนดองเกิล USB สำหรับแสดงสถานะ โหมด และฟีดแบ็ก (คาดว่าเป็นจอ 1.14 นิ้ว ความละเอียด 240 × 135 เช่นเดียวกับรุ่นก่อน)
- USB
- 1x พอร์ต USB Type-A ตัวผู้ สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
- 1x พอร์ต USB Type-A ตัวเมีย สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่อพ่วง (ยังไม่ยืนยัน)
- แหล่งจ่ายไฟ – 5V ผ่านพอร์ต USB
- ขนาด – ยังไม่ระบุ
อุปกรณ์ยังมีเครื่องมือด้าน cryptocurrency แบบพื้นฐาน สำหรับงานเบา ๆ เช่น การโต้ตอบกับวอลเล็ต การทำงานอัตโนมัติ หรือเพื่อการเรียนรู้ (ไม่รองรับการขุดคริปโตหนัก ๆ) สามารถเชื่อมต่อกับบริการ AI ภายนอกเพื่อสั่งการ สร้างคำสั่ง หรือควบคุมฟีเจอร์ต่าง ๆ และมีเดโมบางส่วนที่แสดงการควบคุมด้วยเสียงผ่านการผสาน AI
บริษัทระบุว่าอุปกรณ์นี้เป็น โอเพ่นซอร์สทั้งหมด รองรับทั้งเวิร์กโฟลว์แบบ no-code และแบบขั้นสูง UI ที่เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้นพัฒนาด้วย LVGL ช่วยให้ตั้งค่า BadUSB, การกระทำแบบ HID, งานระบบอัตโนมัติ, กฎความปลอดภัยสำหรับเด็ก และโหมดการทำงานต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เฟิร์มแวร์รองรับการตรวจจับระบบปฏิบัติการอัตโนมัติ (Windows, macOS, Linux) เพื่อเรียกชุดคำสั่งที่เหมาะสมทันทีเมื่อเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดใช้งานการเข้าถึงระยะไกลผ่าน Wi-Fi เพื่อให้แพลตฟอร์ม AI ภายนอกสั่งงาน, สร้างสคริปต์ หรือควบคุมฟีเจอร์ได้ ผู้ใช้ยังสามารถรันคำสั่งเทอร์มินัล สคริปต์แบบกำหนดเอง และเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ รองรับหลายภาษาและหลาย IDE ข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงเอกสารต่าง ๆ คาดว่าจะเผยแพร่บน GitHub ของ SB Components หลังจบแคมเปญระดมทุน (โดยก่อนหน้านี้ HackyPi 1.0 ได้เผยแพร่ผังวงจร (schematics) และซอร์สโค้ดบน GitHub ไม่นานหลังแคมเปญสิ้นสุด)
ในตลาดยังมีเครื่องมือแฮ็กกิ้งและทดสอบเจาะระบบอีกมากมาย เช่น HackStar และ Tarun BUG, ซึ่งเป็นดองเกิล USB ที่ใช้ MCU แบบ RP2040 หรือ ESP32-S3 รวมถึงอุปกรณ์อื่นเช่น Flipper Zero, CiferTech nRFBOX V2, DSTIKE Deauther Watch X, และอื่นๆ
HackyPi 2.0 เปิดระดมทุนบน Kickstarter, แพ็คเกจ Super Early Bird สำหรับ HackyPi 2.0 ราคา £39 (~1,600฿), แพ็ก 2 ชิ้น ราคา £85 (~3,600฿), และแพ็ก 5 ชิ้น ราคา £199 (~8,400฿), แล้วยังมีชุดคอมโบที่รวม HackyPi 1.0 + HackyPi 2.0 ราคา £63 (~2,650฿) สินค้าจัดส่งทั่วโลกและวางแผนเริ่มส่งมอบในเดือนมีนาคม 2026
แปลจากบทความภาษาอังกฤษ : HackyPi 2.0 hacking tool gets ESP32-S3 for Wi-Fi and Bluetooth connectivity (Crowdfunding)
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT