ความแตกต่างหลักระหว่างสองรุ่นนี้คือ PICO2-XL มาพร้อมกับ QSPI Flash ภายนอกขนาด 2MB และการออกแบบที่กะทัดรัดแบบแบนราบ เหมาะสำหรับโปรเจกต์ที่เรียบง่ายและต้องการประหยัดพื้นที่ ส่วน PICO2-XXL มี QSPI Flash ขนาด 16MB, PSRAM 8MB และช่องเสียบ microSD card เพื่อเพิ่มความจุและประสิทธิภาพ รองรับการใช้งานที่ต้องการทรัพยากรมากขึ้น เช่น IoT และการประมวลผล Edge Computing
สเปคของ Olimex PICO2-XL และ PICO2-XXL
- SoC – Raspberry Pi RP2350B MCU
- ซีพียู
- Arm Cortex-M33 แบบ Dual-core @ 150 MHz พร้อม Arm Trustzone, Secure boot และ
- Hazard3 RISC-V 32 บิต แบบ Dual-core @ 150 MHz
- สามารถใช้งานคู่กันได้สูงสุด 2 คอร์ แต่จะไม่สามารถทำงานได้พร้อมกัน
- หน่วยความจำ – SRAM 520KB
- OTP storage 8kB
- ความปลอดภัย – Secure boot
- แพ็คเกจ – QFN-80; 10×10 มม.
- ซีพียู
- หน่วยความจำ – PSRAM 8MB (เฉพาะ PICO2-XXL )
- ที่เก็บข้อมูล
- PICO2-XL – QSPI Flash 2MB
- PICO2-XXL – MicroSD card และ QSPI Flash 16MB
- USB – พอร์ต Type-C สำหรับจ่ายไฟและการเขียนโปรแกรม
- การขยาย
- 2x dual 20-pin header ระยะห่าง 2.54 มม. พร้อม 48x GPIOs
- 4-pin คอนเนกเตอร์ SMD Qwiic/STEMMA QT สำหรับ I2C
- คอนเนกเตอร์ UEXT
- อื่นๆ
- ปุ่ม Reset และปุ่ม Boot
- ไฟ LED แสดงสถานะ
- แหล่งจ่ายไฟ – 1.8 ถึง 5.5V DC ผ่าน USB-C หรือ VSYS
- ขนาด – 50 x 28 x 8.3 มม.
ด้านซอฟต์แวร์ PICO2-XL และ PICO2-XXL สามารถเขียนโปรแกรมด้วย Raspberry Pi C-SDK, MicroPython และ Arduino เช่นเดียวกับบอร์ด Raspberry Pi RP2350 อื่นๆ โดยบอร์ดเหล่านี้ใช้ GPIO ทั้งหมดของไมโครคอนโทรลเลอร์ RP2350Bและเป็น open-source hardware พร้อมทั้งมีไฟล์การออกแบบฮาร์ดแวร์ เช่น ไฟล์ KiCAD, ไฟล์ PDF ของผังวงจร (Schematic) และเลย์เอาต์ PCB, ไฟล์ Gerber และเอกสารต่าง ๆ ที่สามารถเข้าถึงได้บน GitHub
เราเคยเขียนบทความเกี่ยวกับบอร์ดพัฒนาที่ใช้ RP2350A หลายรุ่นเช่นบอร์ด WeAct RP2350A เป็นบอร์ด Raspberry Pi RP2350 ราคาถูกที่สุดในโลกพร้อม flash 16MB, Pico W5 เป็นบอร์ด RP2350 พร้อมการเชื่อมต่อ WiFi 4 แบบดูอัลแบนด์ (2.4GHz/5GHz) และ Bluetooth 5.0, และบอร์ดพัฒนา Raspberry Pi RP2350 ของ Waveshares แต่บอร์ด Raspberry Pi RP2350B ค่อนข้างหายากกว่า ซึ่งเราเคยพูดถึงเช่น บอร์ด Pimoroni Pico Plus 2 W และ Solder Party RP2350 Stamp XL แล้วยิ่งบอร์ด RP2350B แบบ open source hardware (OSHW) นั้นหายากยิ่งกว่า และเท่าที่ทราบ บอร์ดอื่นๆ นอกจาก Olimex PICO2-XL และ PICO2-XXL มีเพียง JumperLess V5 และ Bus Pirate 6 แต่ทั้งสองรุ่นนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไป
บอร์ด PICO2-XL และ PICO2-XXL มีวางจำหน่ายบนร้าน Olimex ราคา 5.00 ยูโร (~180฿) และ 9.00 ยูโร (~320฿) ตามลำดับ
บรรณาธิการข่าวและบทความภาษาไทย CNX Software ได้มีความสนใจในด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะ Smart Home และ IoT